การพัฒนาแอปฯบนมือถือได้รับความนิยมมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้แอปฯกลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้มีผู้พัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างแอปฯมากมาย เปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีความรู้ทางด้านการเขียนโปรแกรมสามารถสร้างแอปฯได้ด้วยเช่นกัน ในบทความนี้เราจะพาไปดูกันว่าอยากสร้างแอปพลิเคชันบนมือถือ ใช้โปรแกรมอะไรดี?
รู้จักกับประเภทของแอปพลิเคชัน
ก่อนที่จะเริ่มไปทำความรู้จักกับโปรแกรมเขียนแอปฯ เราจะต้องรู้จักกับประเภทของแอปฯก่อน เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าโปรแกรมที่เราจะใช้เขียนสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาโปรแกรมได้
Native Application เป็นแอปฯที่ต้องพัฒนาขึ้นมาเฉพาะ โดยสร้างขึ้นมาแยกกันเพื่อใช้งานในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android รวมไปถึงสำหรับใช้บนอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ Native Application จึงมีความสามารถในการใช้ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์เฉพาะอุปกรณ์ได้
Native Application จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานร่วมกับแอปฯอื่นๆ เช่น Google Maps รวมถึงแพลตฟอร์มสำหรับการจ่ายเงินอย่าง Samsung Pay, Android Pay หรือ Apple Pay เพราะ Native Application สามารถให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดจากเทคโนโลยีล่าสุดได้ดีกว่าแอปฯบนระบบคลาวด์ในมือถือ ที่พัฒนาให้เป็นแบบทั่วไปในหลายระบบนั่นเอง
สนใจบริการ : รับทำเว็บไซต์ เริ่มต้นเพียงหน้าละ 3,500 บาท ทำแอปมือถือ ออกแบบผ่าน UX/UI Designer พร้อมให้คำแนะนำด้าน SEO
Hybrid Application เป็นแอปฯที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการพัฒนาที่ง่าย มีการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเป็นเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว หรือการใช้งานฟีเจอร์เพื่อติดต่อกับส่วนต่าง ๆ ของอุปกรณ์ ยังคงมีประสิทธิภาพที่น้อยกว่าการพัฒนาในรูปแบบ Native Application
สำหรับ Hybrid Application เหมาะกับผู้ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ และต้องการสร้างแอปฯ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้เร็วที่สุด นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างแอปฯที่ใช้เงินต่ำที่สุด และมีความคุ้มทุนมากกว่าสำหรับแบรนด์ที่ต้องการจะจับทั้งกลุ่มผู้ที่ใช้งาน iOS และ Android แต่ยังมีงบประมาณไม่มากพอ
Web Application เป็นแอปฯที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อให้สามารถเปิดใช้ใน Web Browser ได้โดยตรง โดยไม่ต้องโหลดแอปฯแบบเต็ม ๆ ลงเครื่อง ทำให้โดยรวมแล้วกินทรัพยากรค่อนข้างต่ำ และสามารถเปิดใช้งานได้ไว ทำให้ง่ายต่อการจัดการ และไม่เกิดความซ้ำซ้อนในการเก็บข้อมูล อีกทั้งยังสะดวกในการใช้งาน สามารถใช้งานได้ทุกที่ เพราะสามารถ Login เข้าใช้งานได้เลย
สำหรับ Web Application จะทำหน้าที่คล้ายกับเว็บไซต์ แต่สามารถใช้งานเป็นแอปฯได้ด้วย ซึ่งจะเน้นให้ผู้คนเข้ามาใช้งานมากกว่า เช่น เว็บแอปฯสำหรับคิดเลข เว็บแอปฯสำหรับจับเวลา เว็บแอปฯสำหรับแปลภาษา โดยส่วนมากแล้วจะมีความสะอาด รวดเร็ว และสบายตากว่าเว็บไซต์ปกติ เนื่องจากเน้นใช้งานในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นหลัก โดยไม่มีฟังก์ชันอื่น

โปรแกรมสำหรับสร้างแอปพลิเคชัน
ในปัจจุบันโปรแกรมสำหรับสร้างแอปฯถูกพัฒนาขึ้นมามากมาย การเลือกโปรแกรมเพื่อนำมาใช้สร้างแอปฯจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพื่อให้ได้แอปฯในรูปแบบที่เราต้องการ ใช้งานได้ง่าย และสามารถพัฒนาลงในแพลตฟอร์มที่เราต้องการได้ การเลือกใช้โปรแกรมในการสร้างแอปฯจึงเป็นอีกสิ่งสำคัญ
BuildFire
Buildfire เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมยอดนิยมสำหรับสร้างแอปฯ เพราะด้วย Interface ที่ใช้งานได้ง่าย มีตัวเลือกในการปรับแต่งแอปฯที่หลากหลาย และในขั้นตอนสุดท้ายคือมีการพัฒนาแอปฯที่รวดเร็ว ใช้เวลาไม่มากนัก ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา BuildFire กลายมาเป็นโปรแกรมยอดนิยมที่คนมักเลือกใช้ในการสร้างแอปฯกัน

นอกจากนั้น BuildFire ยังมีอีกหนึ่งฟังก์ชันที่โดดเด่นคือฟังก์ชัน Drag & Drop ซึ่งก็คือฟังก์ชันที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถลากฟังก์ชันที่ต้องการมาใส่ในแอปฯได้เลย โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการเพิ่มโค้ดเข้าไป นอกจากนั้น BuildFire ยังมีคอมมูฯในการสื่อสาร และแลกเปลี่ยนการสร้างแอปฯกันได้ด้วย โดย Buildfire สามารถใช้สร้างแอปฯได้ทั้ง IOS และ Android เลย
React Native
React Native เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้เราสามารถสร้างแอปฯสองระบบด้วย JavaScript และ React โดยยังสามารถแสดงผล UI ได้ทั้งแพลตฟอร์ม IOS และ Android เนื่องจากที่ React Native ใช้ภาษา Javascript เป็นหลักในการเขียนโปรแกรมอยู่แล้ว จึงทำให้นักพัฒนาที่มีความรู้ ความคุ้นเคยกับ Javascript , CSS Syntax สามารถที่จะทำความเข้าใจ และใช้เวลาศึกษาเรียนรู้ได้ไม่ยาก

นอกจากนั้น React Native ยังมีฟังก์ชันเสริมสำหรับการเพิ่มความสามารถในแอปฯให้เลือกมากมาย โดยยังสามารถทำการแชร์โค้ดระหว่างแพลตฟอร์มได้ง่ายอีกด้วย และยังสามารถนำโค้ดที่มีอยู่ของ React บนเว็บไซต์ นำมาใช้เปลี่ยนเป็นการสร้างแอปฯบนมือถือได้อีกด้วย อีกทั้ง React Native ยังเป็นโปรแกรมที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถใช้งานได้ในระยะยาว
Appgyver
Appgyver เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้สามารถสร้างแอปฯได้ง่ายขึ้น เพียงแค่วางบล็อก และต่อเส้นของแต่ละบล็อก เพื่อเชื่อมการทำงานด้วยกัน โดยบล็อกแต่ละอันก็จะแทนด้วยคำสั่งของเรา ซึ่งเราสามารถออกแบบ และสร้างแอปฯที่ทำงานทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ได้อย่างรวดเร็ว แม้ไม่เคยเขียนโปรแกรมมาก่อน

สำหรับ AppGyver ยังช่วยให้เราสามารถปรับปรุงกระบวนการบนแอปฯของเรา นอกจากนั้นยังสามารถใช้เผยแพร่แอปฯของเรากับผู้ชมทั่วโลกผ่านร้านแอป และการใช้งานเว็บไซต์ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยแอปฯที่สร้างแอปพลิเคชันที่สร้างยังสามารถนำมาใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ Android TV จนถึง macOS เป็นต้น
Flutter
Flutter เป็นโปรแกรมที่มีระบบ Hot Reload ก็คือเมื่อมีการทดสอบ การสร้าง หรือการกระทำต่าง ๆ กับ UI ระบบก็จะต้องมีการ Reload ทุกครั้ง เพื่อให้หน้า UI ทำการอัปเดตตลอด ทำให้ใช้ระยะเวลาในการ Reload น้อยลง และทำให้การพัฒนา UI ของแอปฯมีความรวดเร็วมากขึ้น

นอกจากนั้นโปรแกรม Flutter ยังมีความสามารถในการสร้าง UI ที่สวยงาม และสมจริง โดยการใช้งาน Widgets ที่กำหนดเองได้อย่างอิสระ นอกจากนั้นยังมีการ Render ที่รวดเร็ว ทำให้สามารถสร้างภาพ และสร้างแบบจำลอง 2D ได้ไวขึ้น โดยตัวโปรแกรมยังสามารถสร้างความแตกต่างระหว่าง Android และ IOS ได้ในการพัฒนาเพียงครั้งเดียวอีกด้วย
App Inventor
App Inventor เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับสร้างแอปฯที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งในตอนแรกบริษัท Google ได้ร่วมมือกับ MIT ในการพัฒนาโปรแกรม App inventor ขึ้นมา ต่อมา Google ได้ถอนตัวออกมา และยกโปรแกรมให้ MIT พัฒนาต่อ โดยไปที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ด้านการศึกษามากกว่า

สำหรับ App Inventor จะมีหลักการการทำงานคล้ายกับ Scratch แต่มีความซับซ้อนกว่า โดยลักษณะการเขียนโปรแกรมจะเป็นแบบ Visual Programming คือ เขียนโปรแกรมด้วยการต่อบล็อกคำสั่ง เน้นการออกแบบเพื่อแก้ปัญหา ด้วยการสร้างโปรแกรมที่ผู้เรียนสนใจ บนโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟน ทำให้โปรแกรมมีความเรียบง่าย และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นสร้างแอปฯนั่นเอง
ทำไมถึงควรทำแอปพลิเคชันกับ Launch Platform?
ปัญหาการทำแอปฯสำหรับธุรกิจ หรือบริษัท คือการที่ต้องการให้แอปฯมีระบบซับซ้อน และใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งมีไอเดียอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถดึงออกมาเป็นระบบจริง ๆ ได้ Launch Platform ของเรา มีความถนัดในการพัฒนาระบบที่ซับซ้อน และสามารถเปลี่ยนไอเดียของคุณให้กลายเป็นระบบที่ใช้งานได้จริงบนแอปฯได้ พร้อมติดตามการใช้งาน และให้คำปรึกษาในตลอดการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ที่มา: 1, 2, 3, 4