ในอดีตการทำ ‘แอปพลิเคชัน’ ถือว่าเป็นเรื่องไกลตัวอย่างมาก แต่ในปัจจุบันที่การแข่งขันของธุรกิจเริ่มสูงขึ้น และด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว การทำแอปฯจึงเป็นทางเลือกใหม่ แต่สำหรับธุรกิจที่อยากเริ่มต้นทำแอปฯ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ในบทความนี้จะพาไปดูกันว่า อยากมีแอปฯเป็นของตัวเอง ต้องเริ่มต้นอย่างไร? และควรมีงบเท่าไหร่?
อยากมีแอปพลิเคชัน ต้องรู้อะไรบ้าง
สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนเริ่มทำแอปพลิเคชัน คือ การทำแอปฯนั้นจะมีรูปแบบการทำที่แตกต่างกัน ที่เห็นได้ชัดก็คือแอปฯบน Android และ IOS ซึ่งความแตกต่างก็คือในเรื่องของระยะเวลา และเทคโนโลยีในการทำแอปฯ ซึ่งในส่วนนี้จะส่งผลต่อการคิดราคาในการทำแอปฯด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีส่วนอื่นที่เราควรรู้ก่อนจะเริ่มจ้างทำบริษัททำแอปฯอีกด้วย
ควรเตรียมเงินเท่าไหร่สำหรับการทำแอปพลิเคชัน
สำหรับค่าใช้จ่ายในการทำแอปฯ นอกจากส่วนเพิ่มเติมที่เรากล่าวไปข้างต้นแล้ว ค่าใช้จ่ายยังแตกต่างกันออกไปตามประเภทของแอปฯ และการจ้างทำแอปฯอีกด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่าการทำแอปฯขึ้นมาหนึ่งแอปฯถือเป็นสิ่งที่มีหลายแบบ และหลายขั้นตอนมาก
ทำแอป ราคาเท่าไหร่ อัปเดตล่าสุด
สำหรับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแอปฯนั้น ค่าใช้จ่ายจะคำนวณจากประเภทของแอปฯ ว่าเป็นแอปฯที่มีความยาก หรือความซับซ้อนหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการนำไปลงสโตร์ หรือค่าเช่าเซิร์ฟเวอร์อีกด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วบริษัทต่าง ๆ จะคำนวณจากประเภทของแอปฯ เพราะว่าจะสามารถคาดเดาราคา และเวลาในเบื้องต้นได้
แอปพลิเคชันทั่วไป
แอปฯทั่วไป หรือหมายถึงแอปฯขนาดเล็ก ที่ไม่ต้องใช้ความซับซ้อนอะไรในการพัฒนา รวมถึงไม่จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือการพัฒนา Backend เช่น แอปฯเครื่องคิดเลข แอปฯแบบทดสอบ หรือเกมขนาดเล็กที่พัฒนาได้ง่าย ซึ่งแอปฯประเภทนี้ใช้เวลาไม่นานในการขั้นตอนการพัฒนาแอปฯ
ค่าใช้จ่าย: 300,000 บาท - 500,0000 บาท
แอปพลิเคชันที่อัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์
แอปฯที่อัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ เป็นแอปฯที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยจะทำการรวบรวม และตีความข้อมูล เพื่อแสดงผลลัพธ์ตามข้อมูลที่รวบรวมมา ตัวอย่างเช่น แอปฯสำหรับพยากรณ์อากาศ ปฏิทิน และแอปฯแผนที่ ซึ่งแอปฯประเภทนี้จะต้องมีข้อมูลที่แม่นยำ และถูกต้องมากที่สุด
ค่าใช้จ่าย: 500,000 บาท - 700,000 บาท
แอปพลิเคชัน Social Network
แอปฯ Social Network เป็นแอปฯที่ช่วยให้ผู้ใช้ สามารถสร้างการเชื่อมต่อระหว่างกัน ผ่านการพูดคุย หรือแชร์เรื่องราวต่าง ๆ เช่น Facebook, Twitter, LinkedIn หรือ Instagram เป็นต้น จะเห็นได้ว่าเนื่องจากแอปฯ Social Network ถือว่าเป็นแอปฯขนาดใหญ่ เพราะต้องสามารถรองรับผู้ใช้งานหลายล้านคนได้ รวมไปถึงการพัฒนา Backend ดังนั้นต้นทุนสำหรับการพัฒนาแอปฯประเภทนี้จึงมีราคาที่สูง
ค่าใช้จ่าย: 2 ล้านบาท - 10 ล้านบาท
แอปพลิเคชัน E-Commerce
แอปฯประเภท E-Commerce ถือเป็นแอปฯที่มีความซับซ้อน และต้องการใช้คุณสมบัติขั้นสูง เช่น Catalog, Message, Product Description รวมไปถึงราคาของสินค้าต่าง ๆ ตัวอย่างแอปฯ E-Commerce เช่น Shopify, Amazon, Eastbay และแอปฯชอปปิ้งอื่น ๆ อีกมากมาย โดยต้นทุนในการผลิตแอปฯประเภทนี้จะมีราคาที่ใกล้เคียงกันกับแอปฯ Social Network เพราะมีลักษณะการทำงาน และการพัฒนาที่คล้ายกัน
ค่าใช้จ่าย: 2 ล้านบาท - 10 ล้านบาท
แอปพลิเคชันที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า
แอปฯประเภทที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยจะต้องสามารถบริการตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น Uber และ Grubhub ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถสื่อสารกับผู้ใช้ปลายทางเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ แอปฯบริการเหล่านี้เป็นการผสมผสานระหว่างแอปฯโซเชียล และ E-Commerce จึงทำให้ต้นทุนในการผลิตมีราคาที่ค่อนข้างสูง
ค่าใช้จ่าย: 5 ล้านบาท
เลือกจ้างบริษัทสำหรับทำแอปพลิเคชัน
สำหรับการทำแอปฯถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูง เพื่อให้ได้แอปฯที่มีฟังก์ชันตามที่เราต้องการ แต่หลายคนยังไม่ทราบว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าจ้างบริษัทไหนถึงจะคุ้มค่า และคุ้มค่าใช้จ่ายที่เราเสียไป
บางบริษัทจะมีข้อจำกัดอยู่ เช่น ไม่รับทำแอปฯ E-commerce หรือไม่รับทำ Social Network เป็นต้น ทำให้ในส่วนนี้เราต้องมั่นใจว่าเราต้องการอะไร และอยากให้แอปฯของเราไปในทิศทางไหน
ประสบการณ์ของบริษัทก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยให้สังเกตจากผลงานของบริษัทนี้ผ่านงานรูปแบบไหน เพื่อให้มั่นใจว่าแอปฯของเรานั้นสอดคล้องกับผลงานที่เคยผ่านมา และเพื่อให้มั่นใจว่าโปรเจกต์จะสามารถทำจนจบในเวลาที่ต้องการ และโดยที่ไม่ทิ้งงานนั่นเอง
นอกจากนั้นเรื่องของเรตราคาก็สำคัญ เพราะราคาควรอยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผล แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ได้มีแค่เรื่องถูกกับแพง เพียงแต่ทางบริษัทต้องชี้แจงได้ว่าเราต้องลงงบประมาณในส่วนไหนบ้าง จึงจะเหมาะสม ไม่มีการลงงบที่คลุมเครือ น้อยหรือมากจนเกินไป
บทความที่เกี่ยวข้อง: 5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มทำแอปพลิเคชัน
สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการจ้างทำแอปพลิเคชัน
การที่เราต้องการแอปฯที่ดี จะต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เพื่อให้ได้ฟังก์ชันที่สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้งานแอปฯได้ แต่หลังจากที่ได้ฟังก์ชันที่ต้องการแล้ว ยังมีสิ่งที่ห้ามละเลยเด็ดขาดในการพัฒนาแอปฯ
ความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากในแอปฯมีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน ข้อมูลลูกค้า หรือข้อมูลภายในบริษัท เราจึงต้องห้ามละเลยด้าน Security ของแอปฯเป็นอันขาด แน่นอนว่าเราอาจต้องเสียเงิน และเวลาในการจัดการมากขึ้น แต่ดีกว่าการที่ต้องมาเสียความน่าเชื่อถือจากลูกค้า เพราะทำข้อมูลหลุดแน่นอน
ปัจจุบันนั้นอินเทอร์เน็ตมีความไวกว่าสมัยก่อนมาก และเนื่องจากในปัจจุบันแอปมีการพัฒนาในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้มีตัวเปรียบเทียบมากมาย ถ้าหากแอปฯของเราช้า เราก็จะสามารถเห็นได้ทันที ซึ่งถ้าหากแอปฯยิ่งช้าอาจทำให้ผู้ใช้เลิกใช้งานแอปฯไปก่อนได้
ทำไมถึงควรทำแอปพลิเคชันกับ Launch Platform?
ปัญหาการทำแอปฯสำหรับธุรกิจ หรือบริษัท คือการที่ต้องการให้แอปฯมีระบบซับซ้อน และใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งมีไอเดียอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถดึงออกมาเป็นระบบจริง ๆ ได้ Launch Platform ของเรา มีความถนัดในการพัฒนาระบบที่ซับซ้อน และสามารถเปลี่ยนไอเดียของคุณให้กลายเป็นระบบที่ใช้งานได้จริงบนแอปฯได้ พร้อมติดตามการใช้งาน และให้คำปรึกษาในตลอดการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ที่มา: 1, 2, 3