DEVELOP WEBSITE & MOBILE APPLICATION PLATFORMS FOR ALL

อยากทำเว็บเอง แต่กลัวเรื่อง Code เรื่องนี้ไม่ยาก ในบทความนี้เราจะมาแชร์ ขั้นตอนเริ่มต้นทำเว็บด้วย WordPress ด้วยตัวเอง อ่านแล้วทำตามได้เว็บไซต์ในระดับพื้นฐานไปต่อยอดได้แน่นอน

9 ขั้นตอนเริ่มต้นทำเว็บด้วย WordPress ด้วยตัวเอง

หากคุณกำลังอยากที่จะทำเว็บของตัวเอง สนใจที่จะทำเว็บด้วย WordPress แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร เพราะกังวลว่าการที่ไม่รู้เรื่อง Code จะเป็นอุปสรรคในการทำเว็บ หากคุณกำลังกังวลในเรื่องนี้ ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะแม้จะไม่มีพื้นฐาน Code เลย ก็ยังสามารถสร้างเว็บได้ โดยให้ทำตามเราไปทีละขั้นตอน

1. ตัดสินใจก่อนว่าจะเลือก WordPress.com หรือ WordPress.org

การใช้งาน WordPress จะมีอยู่ 2 แบบให้เลือกใช้งาน สามารถใช้งานได้ฟรีเหมือนกัน  ทั้งแบบ.com และแบบ .org แต่จะแตกต่างตรงบางส่วน ดังนี้

  • WordPress.com : จะเป็นการดูแลเว็บไซต์ของเราจาก WordPress โดยตรง เราสามารถใช้งานได้ฟรีแต่จะมีข้อจำกัดหลายอย่าง นอกจากนี้เรายังสามารถจ่ายเงินในการตั้ง Domain Name และเช่า Hosting กับทาง WordPress ได้เลย แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติ

  • WordPress.org : เป็นเครื่องมือพัฒนาเว็บไซต์ฟรี แต่ต้องเตรียม Domain Name และเช่า Hosting เอาไว้ก่อนแล้ว แต่ถ้าหากต้องการ Theme สวย ๆ หรือเพิ่มส่วนไหนเป็นพิเศษ อาจจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อมา

สรุป คือ ถ้าเลือกใช้แบบ.com จะเป็นการใช้จ่ายเงินเพื่อใช้บริการของ WordPress แบบเต็มรูปแบบ แต่.org จะต้องเตรียม Domain Name และ Hosting แยกเอาไว้ก่อนจะเข้ามาใช้งาน ซึ่งจะประหยัดกว่ามาก โดยในบทความนี้เราจะเจาะลึกไปที่การใช้งานแบบ WordPress.org เพราะใช้ต้นทุนที่น้อยกว่า

2. เลือกซื้อ Domain Name

หลังจากตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ WordPress.org ขั้นตอนต่อมา คือ การเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม โดยเริ่มจาก Domain Name ก่อน ที่เปรียบเสมือนชื่อของบ้านเรา ที่จะไม่มีใครมาซ้ำกับเราได้ และเราจะต้องไม่ซ้ำกับของคนอื่นด้วย โดยเราแนะนำให้เลือกผู้ให้บริการในประเทศไทย เพราะสะดวกต่อการติดต่อสอบถาม กรณีมีข้อสงสัย หรือเกิดปัญหาใด ๆ ทั้งก่อน และหลังซื้อ Domain Name

โดยทั่วไปแล้วการซื้อ Domain จะใช้ค่าใช้จ่ายไม่มากที่ประมาณ 500 - 1,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับชนิดโดเมน ในส่วนนี้หากเลือกเป็นแบบ .com จะไม่ต้องใช้เอกสารในการยืนยันตัวมาก แต่หากเป็นโดเมนอื่น ๆ จะต้องใช้เอกสารที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง

3. เช่า Hosting

หลังได้ Domain Name มาแล้ว ต่อมาให้ทำการเช่า Hosting ต่อ ตรงนี้จะเป็นการเช่าพื้นที่สำหรับให้เว็บไซต์ของเราใช้อยู่อาศัย โดยราคาจะน้อย หรือมาก ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่เว็บไซต์ที่เราจะเช่า โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 3,000 บาท กรณีที่เราทำเว็บไซต์กับ WordPress เราต้องเลือกเช่า Hosting สำหรับ WordPress โดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า “WordPress Hosting” ที่ช่วยให้การทำงานของเว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากกว่า Hosting ทั่วไป

สำหรับราคาของ WordPress Hosting จะมีราคาสูงกว่า Hosting ทั่วไป เรตของราคาจะอยู่ในช่วง 1,200 - 3,500 บาทต่อปี เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการข้อมูล ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีทั้งบริการซื้อ Domain Name และเช่า Hosting ในที่เดียวกัน

ทำเว็บ WordPress เอง

รูปภาพจาก : WordPress

4. เข้าสู่ WordPress.org

หลังจากผ่านไปอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หากไม่มีปัญหา ทางผู้ให้บริการมักจัดการในเรื่องความปลอดภัยของเว็บไซต์ หรือ https เสร็จแล้ว จึงนำไปติดตั้งใน WordPress.org ต่อ สามารถทำตามขั้นตอนการติดตั้งต่อไปได้เลย หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วจะได้เว็บไซต์ WordPress เบื้องต้นมา (โดยทั่วไปสามารถขอให้ผู้ให้บริการดำเนินการติดตั้งให้ จากนั้นให้เราทำการ Reset รหัสผ่านในการใช้งานภายหลัง)

5. ตั้งชื่อเว็บไซต์ให้ถูกต้อง

อย่างแรกที่เราต้องรีบทำ คือ การเข้าไปตั้งค่าชื่อแบรนด์ของเราก่อน โดยให้เข้าไปที่ Setting จากนั้นเลือก General แล้วทำการใส่ข้อมูล ดังนี้

  • Site title : ใส่ชื่อของเว็บไซต์ของเราเข้าไป ซึ่งส่วนนี้จะไปแสดงตามหน้าต่าง ๆ โดยเฉพาะหน้า Home

  • Tagline : อธิบายเบื้องต้นว่าเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร ให้บริการอะไร

  • Site Address (URL) : กำหนดที่อยู่ของเว็บไซต์ของเรา หรือคือ Domain ของเรานั่นเอง

  • Timezone : ตั้งค่าเวลาของเว็บไซต์ และรูปแบบการแสดงเวลา ให้เราเลือกเป็น Bangkok ในส่วนนี้

  • ตั้งค่าอื่น ๆ : ในส่วนอื่น ๆ จะเป็นข้อมูลเพิ่มเติม แล้วแต่เราต้องการจะเพิ่ม เช่น E-mail เป็นต้น

6.ปรับแต่งเว็บไซต์

ในส่วนของการปรับความสวยงาม หรือ Lay Out ของเว็บไซต์สามารถทำได้ด้วยการเข้าไปที่ Appearance ไปที่ Themes เราสามารถค้นหารูปแบบที่เราต้องการได้ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย เมื่อเราเจออันที่เราชอบให้กดติดตั้งได้เลย อย่างไรก็ตาม แต่ละ Themes มีข้อจำกัดในการตกแต่งไม่เหมือนกัน เหมือนกับแบบเว็บไซต์สำเร็จรูปเท่านั้น

นอกจากเราจะค้นในส่วนนี้แล้ว แบบ Themes สวย ๆ หรือที่เหมาะกับการใช้งานของเรายังสามารถหาซื้อได้จากภายนอกอีกด้วย แต่จะต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้มา ระดับราคานั้นจะแตกต่างกันเฉลี่ยราคาที่ 2,000 บาทขึ้นไป แต่เราจะได้รับการดูแลจากทีม Support โดยตรง กรณีเกิดปัญหาในการใช้งาน Themes นั้น ๆ

7. วิธีเพิ่ม Page ใหม่

เวลาเราไปดูเว็บไซต์อื่น ๆ เราจะเห็นส่วนเมนูหลักของเว็บไซต์ เช่น ติดต่อ, เกี่ยวกับเรา หรือบทความ เป็นต้น เมนูหลักเรานี้ใน WordPress จะเลือกว่า “Page” ซึ่งเราต้องสร้างขึ้นมาเอง โดยสามารถสร้างได้โดยการกดที่ Pages เลือก Add New โดยระบบจะให้เราตั้งชื่อเพจ จากนั้นเราจะสามารถจัดการเนื้อหาที่ต้องการให้อยู่ในเพจนั้น ๆ รูปแบบการจัดวางที่เราสามารถเลือกเบื้องต้นมักมาจาก Themes ที่เราติดตั้งเอาไว้

ตัวอย่างเช่น : เราต้องการสร้างเพจ “ติดต่อเรา” ให้เราตั้งชื่อเพจว่า “ติดต่อเรา” จากนั้นตั้งค่าเนื้อหาด้านใน เช่น การเพิ่ม Google Map และการใส่ Social Media ช่องทางต่าง ๆ เป็นต้น จากนั้นกด Save หน้าติดต่อเราก็พร้อมออนไลน์ทันที

เพิ่มหน้าใน WordPress

8. วิธีเพิ่มบทความเนื้อหา

ส่วนต่อมาที่มักใช้กันบ่อย คือ การลงบทความ หรือลง Content ต่าง ๆ เพื่อให้เว็บไซต์เกิดการ Update อยู่เสมอ โดยใน WordPress จะเรียกตรงส่วนนี้ว่า “Posts” สำหรับการเพิ่มเนื้อหาบทความให้เราเลือก Posts เลือก Add New ระบบจะพาเราเข้าสู่หน้าบทความ จากนั้นให้เราเขียนเนื้อหาได้เลย เมื่อเราต้องการเขียนบทความเพิ่ม ให้เข้ามากด Add New สำหรับบทความใหม่อีกครั้ง

ส่วนของการทำบทความ หากมีความรู้ในการทำ SEO จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้มีคนเข้ามายังเว็บไซต์มากขึ้นได้ แต่ต้องใช้เวลา และต้องทำอย่างต่อเนื่อง

วิธีเพิ่มบทความใน WordPress

9. เพิ่มขีดจำกัดด้วย Plug-in

แม้ WordPress จะมีการ Update ระบบใหม่ ๆ มาให้ใช้บ้าง แต่อีกหนึ่งวิธีในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน คือ การติดตั้ง Plug-in เพิ่มขึ้นมา มีทั้งการเพิ่มระบบใช้งานใหม่ ๆ ไปจนถึงเครื่องมือที่ใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น WP Super Cache เพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ หรือ Yoast SEO เครื่องมือช่วยตรวจความสมบูรณ์ของบทความ SEO เป็นต้น

จบความยุ่งยากทั้งหมดให้ Launch Platform สร้างเว็บไซต์

การทำเว็บไซต์ด้วยตนเองสามารถทำได้ก็จริง แต่สิ่งที่จะต้องแลกมา คือ ระยะเวลาในการทำที่ต้องใช้เวลานานหลายเดือน กว่าที่เว็บไซต์จะมีความพร้อม ยิ่งเลือกลงทุน หรือใช้เงินน้อยเท่าไหร่ ความยุ่งยากจะยิ่งมากขึ้นด้วย ดังนั้นอาจดีกว่าถ้ามีทีมงานเข้ามาดูแลสร้างเว็บไซต์ให้ ซึ่งเรามีความชำนาญในเรื่องนี้

นอกจากการสร้างเว็บไซต์ WordPress เรายังถนัดการสร้างเว็บไซต์เฉพาะให้กับคุณ เพราะการใช้งานของ WordPress อาจมีข้อจำกัด ไม่มีระบบหลังบ้านบางอย่างที่คุณต้องการ หากคุณมีไอเดีย สามารถปรึกษาเราเพื่อให้ไอเดียนั้น สามารถใช้งานได้จริงบนเว็บไซต์

ที่มาข้อมูล : 1, 2


01 Aug 2024
Tags :



Writer
LAUNCHPLATFORM
Content Writer

บทความแนะนำที่เกี่ยวกับบริการ