ก่อนเลือกซื้อบริการเริ่มต้นทำเว็บต้องศึกษาข้อมูลให้ดี WordPress VS Wix ควรเลือกแพลตฟอร์มไหนมากกว่ากันในปีนี้ บทความนี้จะยกข้อเปรียบเทียบให้คุณเห็นภาพมากที่สุด
6 ข้อสำคัญเทียบ WordPress VS Wix ทำเว็บที่ไหนดีที่สุดในปี 2024
ปัจจุบันคนไทยมักเลือกใช้บริการทำเว็บกับแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีอัตราการแข่งขันสูงมาตลอดทั้ง WordPress และ Wix ระหว่าง 2 แพลตฟอร์มนี้เมื่อเทียบในแง่ของการใช้งาน และด้านอื่น ๆ จะเป็นอย่างไรบ้างต้องมาดูกันไปทีละข้อ
1. ความง่ายในการใช้งาน
WordPress : มีความยากในการใช้งานที่มากกว่า ต้องลงมือเตรียมข้อมูลให้ครบทั้ง Domain Name เช่า Hosting รวมถึงศึกษาการใช้งานเครื่องมือ และแถบเมนูต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีปลั๊กอินจำนวนมากให้ใช้งาน
Wix : ใช้งานได้ง่ายกว่าของ WordPress มีความสวยงาม แต่มาในรูปแบบเว็บสำเร็จรูปมากกว่า ความสามารถในการปรับแต่งเว็บไซต์ไม่ลึกเท่ากับ WordPress เหมาะกว่าหากต้องการความรวดเร็ว
สรุปความง่ายในการใช้งาน : การออกแบบสำหรับการใช้งานชัดเจนว่า Wix ทำออกมาได้ดีกว่า ด้วยเทคนิคแบบลากวาง หรือที่เลือกว่า Drag&Drop โดยเฉพาะ แต่ถ้าเทียบกันจริง ๆ WordPress ไม่ได้ใช้งานยากกว่าขนาดนั้น
2. ต้นทุนที่ใช้พัฒนา
WordPress : มีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับช่วงเริ่มต้น แต่จะเป็นการจ่ายแบบรายปีเป็นส่วนใหญ่ รวมการเตรียมเครื่องมือทั้งหมด จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 3,000 บาทต่อปี ไม่รวมค่า Theme ที่อาจต้องจ่ายเพิ่มเพื่อความสวยงาม
Wix : มีราคาที่ต้องจ่ายในการเลือกบริการเว็บไซต์สำเร็จรูปปกติแล้วจะจ่ายเป็นรายเดือน หากคิดเป็นรายปีจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,000 บาทต่อปี แน่นอนว่ายังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกเช่นเดียวกัน
สรุปต้นทุนที่ใช้พัฒนา : แม้ว่าการทำเว็บบนกับ Wix จะใช้ต้นทุนที่น้อยกว่า แต่หลายคนเลือกที่จะใช้บริการกับ WordPress เพราะเป็นที่รู้จักมากกว่า และเป็นที่นิยมมาหลายปีแล้ว นอกจากนี้หากตัดปัญหาเรื่องการเรียนรู้เพิ่มเติมออกไป การจ่ายเพิ่มนิดหน่อย แล้วได้ระบบเว็บไซต์ที่ลึกกว่าก็ดูเหมือนจะคุ้มค่าพอสมควร
บทความที่เกี่ยวข้อง : Wix ราคาเท่าไหร่? อัปเดตใหม่ปี 2024 พร้อมข้อมูลอย่างละเอียด
3. ความสามารถด้าน SEO
WordPress : หากอิงจากข้อมูลของ ahrefs ผลปรากฏว่าเว็บไซต์ที่ติดอันดับเกิดจาก WordPress มากถึงประมาณ 46% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์
Wix : อิงจากข้อมูลของ ahrefs เช่นเดียวกันพบเว็บไซต์ที่ติดอันดับใน Google จาก Wix เพียงประมาณ 1% เท่านั้น ถือว่าไม่ได้โดดเด่นกว่าเว็บทั่วไป
สรุปความสามารถด้าน SEO : หากมองความยากง่ายในการทำ SEO อาจพอสรุปได้ว่า WordPress เหมาะต่อการทำ SEO มากกว่าพอสมควร อย่างไรก็ตามด้วยอายุของแพลตฟอร์มที่ต่างกันสามารถส่งผลต่อตัวเลขตรงนี้ได้เนื่องจาก WordPress เปิดตัวก่อน Wix นานถึง 3 ปีนั่นเอง

4. Theme และ Plug-in
WordPress : ปริมาณการปรับแต่งของแพลตฟอร์มนี้มีมากกว่าอย่างชัดเจน เนื่องจากมี Theme ให้เลือกใช้งานกว่า 2,000 แบบ และมีจำนวน Plug-in จำนวนมากกว่า 60,000 ตัว
Wix : ปริมาณการปรับแต่งของแพลตฟอร์มนี้มีมากกว่าอย่างชัดเจน เนื่องจากมี Theme ให้เลือกใช้งานกว่า 800 แบบ และมีจำนวน Plug-in ประมาณ 50,000 ตัวเท่านั้น
สรุป Theme และ Plug-in : เนื่องจาก WordPress เปิดตัวมานานกว่าจึงไม่แปลกที่จะมีจำนวน Theme และ Plug-in มากกว่า Wix แต่เมื่อเวลาผ่านไป Wix น่าจะมีทางเลือกในปรับแต่งใกล้เคียงกับ WordPress มากขึ้นในอนาคต
5. การเขียนบทความ
WordPress : เริ่มแรกแพลตฟอร์มนี้โฟกัสการเขียน Blog ทำบทความมาก่อนอยู่แล้ว ก่อนที่จะขยายออกมาเป็นแพลตฟอร์มพัฒนาเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ทำให้มีเครื่องมือที่ครบถ้วนสำหรับการเขียนบทความออนไลน์
Wix : ถึงแม้จะใช้งานได้ง่ายในหลาย ๆ ส่วน รวมถึงการใช้งานในส่วนของการเขียน Blog แต่แน่นอนว่ายังพัฒนาไม่เท่ากับของทาง WordPress
สรุปการเขียนบทความ : หากต้องการเครื่องมือครบครันมีความหลากหลายแน่นอนว่าควรเลือกใช้เครื่องมือของ WordPress มากกว่า
6. การ Support จากทีมงาน
WordPress : การติดต่อทีม Support ของแพลตฟอร์มนี้ยากกว่าพอสมควร เนื่องจากบริการตั้งต้นฟรีอยู่แล้ว ทำให้ไม่ได้มีการ Support ที่ดีพอ ทำให้การแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างมาจากการติดตั้งปลั๊กอินแทน
Wix : แม้ว่าจะใช้งานฟรีเช่นกัน แต่มีข้อจำกัดมาก ทำให้เราต้องจ่ายเงินเพื่อใช้บริการ เมื่อมีการจ่ายเงินสิ่งที่ตามมา คือ มีทีม Support ที่คอยให้คำปรึกษา และติดต่อได้ง่ายกว่ามาก
สรุปการ Support จากทีมงาน : แม้ว่า WordPress จะมีความสามารถที่สูงกว่าในหลาย ๆ ด้าน แต่สำหรับในมุมของทีม Support ดูเหมือนว่า Wix จะเป็นฝ่ายที่เอาชนะไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ที่อาจเกิดปัญหาขึ้นตลอดเวลา
บทความที่เกี่ยวข้อง :

สรุปควรเลือก WordPress หรือ Wix มากกว่ากัน
จากข้อมูลจะเห็นว่า WordPress เหนือกว่า Wix แทบทุกด้าน แน่นอนว่าประสิทธิภาพการใช้งานที่เราได้ต้องแลกมากับราคาในการพัฒนาเว็บไซต์ที่สูงขึ้น และต้องเสียเวลาในการเรียนรู้ระดับหนึ่ง แต่ในเรื่องนี้สามารถหาเรียนรู้ได้ทั่วไป ดังนั้นถ้าคุณมีงบประมาณที่สามารถใช้งาน WordPress ได้ก็ควรเลือกใช้งานมากกว่า Wix
ส่วนผู้ที่กำลังสนใจใช้งาน Wix ที่มีข้อดีกว่า คือ ความง่ายในการใช้ และมีทีม Support ที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ อย่างไรก็ตามเราไม่ได้แนะนำให้ใช้หากไม่จำเป็น เพราะถึงแม้ WordPress จะติดต่อทีม Support ยาก แต่มีผู้สอนแก้ปัญหาใช้งานทั่วไปตามสื่อออนไลน์อยู่แล้ว และยังมีปลั๊กอินช่วยปิดรอยรั่วต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ตารางเปรียบเทียบ WordPress กับ Wix |
จุดเปรียบเทียบ | WordPress | Wix |
ความง่ายในการใช้งาน | ใช้งานยากกว่า ระบบลึกกว่า | ใช้งานง่าย ระบบไม่ลึก |
ต้นทุนที่ใช้พัฒนา | เริ่มต้น 3,000 บาทต่อปีขึ้น | เริ่มต้น 2,000 บาทต่อปี |
ความสามารถด้าน SEO | ทำได้ง่ายกว่า | ทำได้ยากกว่า |
Theme และ Plug-in | มีจำนวนมากกว่าชัดเจน | มีจำนวนน้อยกว่า |
การเขียนบทความ | เครื่องมือครบครันกว่า | เครื่องมือน้อยกว่าพอสมควร |
การ Support จากทีมงาน | ติดต่อได้ยาก | ติดต่อได้ง่าย |
ใช้ WIX อยู่แล้วควรเปลี่ยนไปใช้ WordPress ไหม
หากคุณใช้ Wix อยู่แล้ว เพิ่งมารู้ว่า WordPress สามารถใช้งานได้ดีกว่ามาก หากยังไม่มีงบหรือต้นทุนในการย้ายข้อมูลเว็บไซต์ ก็ยังสามารถใช้งาน Wix ต่อไปได้ก่อน แต่ถ้าหากคุณมีงบ และต้องการพลัง SEO ที่มากกว่า คุณสามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญในการถ่ายโอนข้อมูลเว็บไซต์ได้เช่นกัน
WordPress ความปลอดภัยต่ำ ควรทำอย่างไร
สำหรับ Platform อย่าง WordPress แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย คือ ความปลอดภัยต่ำกว่ามาก สามารถโดนแฮกได้ไม่ยากเย็นเลย นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมบริษัทในไทยจึงตัดสินใจ เลือกใช้บริการสร้างเว็บไซต์แบบ Optimize มากกว่า หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการที่มีความชำนาญในด้านนี้ สามารถวางใจให้ Launch Platform ช่วยดูแล และให้คำปรึกษาได้
อย่าลังเลหากคุณกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจ และยังไม่มีเว็บไซต์ เพราะเว็บไซต์เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการทำการตลาดออนไลน์ หากผ่านช่วงเริ่มต้นไปแล้ว รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:
ที่มาข้อมูล : 1, 2