ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ที่ได้ทำให้มีการพัฒนาเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การผลิต และการแพทย์ รวมไปถึงแอปพลิเคชันที่ได้มีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการพัฒนาเช่นกัน วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าปัญญาประดิษฐ์มีความสำคัญอย่างไรในการพัฒนาแอปฯ
ปัญญาประดิษฐ์คืออะไร?
ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) เป็นเทคโนโลยีที่มีการนำระบบคอมพิวเตอร์มาพัฒนาให้สามารถเรียนรู้ และประมวลผลข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้สามารถทำงานได้เหมือนกับมนุษย์ และสามารถเลียนแบบการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการให้เหตุผล การพูด หรือทัศนคตินั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง: AI คืออะไร? เครื่องมือใหม่ยุคดิจิทัล
การนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการพัฒนาแอปฯ
การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้งานในการพัฒนาแอปฯ จะเป็นการนำปัญญาประดิษฐ์มาผสมผสานให้เข้ากับการทำงานของแต่ละแอปฯ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีมากยิ่งขึ้น
แชทบอท (Chatbot)
แชทบอทเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่จะช่วยให้เราสามารถทำการสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น โดยจะให้ลูกค้าเข้ามากรอกแบบฟอร์มในเว็บไซต์ และสอบถามเกี่ยวกับบริษัทได้แบบเรียลไทม์ แชทบอทจึงถือเป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์อย่างมากหากนำมาใช้ในการพัฒนาแอปฯที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ โดยแชทบอทจะทำหน้าที่สนทนากับผู้ใช้งานได้เหมือนผู้ใช้งานสนทนากับมนุษย์นั่นเอง
ปัจจุบันหลาย ๆ แอปฯก็ได้มีการนำแชทบอทมาใช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานแอปฯให้ได้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น Youper แอปฯสำหรับการดูแลรักษาสุขภาพจิต โดยใช้แชทบอทที่มีความสามารถด้านการเข้าใจภาษาด้วยระบบประมวลภาษา (Natural Language Processing : NLP) และอัลกอริทึ่ม AI เพื่อให้แชทบอทสามารถเลียนแบบการสนทนาระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เพื่อเป็นเพื่อนในการรักษาสุขภาพจิตได้นั่นเอง
ไบโอเมทริกซ์ (Biometrics)
ไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) หรือเทคโนโลยีชีวมิติ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการระบุตัวตน และยืนยันตัวบุคคล โดยใช้เทคนิคการแปรค่าเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล มาวิเคราะห์ และเปรียบเทียบความแตกต่าง ทำให้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และสะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้มีความปลอดภัย และน่าเชื่อถือสูง
เทคโนโลยีไบโอเมทริกส์ได้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในแอปฯที่ต้องมีการยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรกรรม เช่น แอปฯทางด้านการเงิน และแอปฯต่าง ๆ ของรัฐบาล นอกจากนั้นยังมีการนำไบโอเมทริกซ์มาใช้พัฒนาให้กลายเป็น AI เช่น Apple Face ID ที่สามารถมองเห็นได้ในรูปแบบ 3 มิติ โดยจะเก็บรายละเอียดบนใบหน้าได้ถึง 30,000 จุด และใช้อัลกอริทึ่มของ Machine Learning ในการเปรียบเทียบใบหน้าที่กำลังสแกนกับรูปที่เก็บเอาไว้ เพื่อที่จะตัดสินว่าคนที่กำลังจะปลดล็อคหน้าจอใช้คุณหรือไม่นั่นเอง
การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning)
การเรียนรู้ของเครื่อง หรือ Machine Learning (ML) เป็นรูปแบบหนึ่งของ AI ที่ทรงพลัง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดย ML ถือเป็นส่วนหนึ่งของ AI ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ และพัฒนาตนเองได้โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมเพิ่มเติม ใช้ข้อมูลและอัลกอริทึมเพื่อเลียนแบบการเรียนรู้ของมนุษย์ มีเป้าหมายคือการเพิ่มความแม่นยำยิ่งขึ้นในขณะที่ทำการจัดประเภท คาดการณ์ หรือดึงข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น Mubert แอปฯสตรีมมิ่งเพลง โดยจะจัดเพลงให้ตรงกับอารมณ์ หรือกิจกรรมของคนฟังในเวลาขณะนั้นได้ เช่น ช่วยในการนอนหลับด้วยเพลงที่ช่วยทำให้ง่วง โดยใช้ ML สำหรับการสร้างเพลย์ลิสต์ที่ไม่ซ้ำ และมีความต่อเนื่อง โดยใช้เทคนิค Layering เป็นหัวใจสำคัญในการนำเสนอการเล่นเพลงได้แบบต่อเนื่อง
เทคโนโลยีการจำเสียงพูด (Speech Recognition Technology)
เทคโนโลยีการจำเสียงพูด ถือเป็นอีกหนึ่ง AI ยอดนิยมที่มักถูกนำมาใช้ในการพัฒนาแอปฯ โดยทำการถอดรหัส และแปลงเสียงพูดของมนุษย์ให้อยู่ในรูปแบบที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้ใช้งานในปัจจุบัน ที่นิยมการใช้งานสั่งงานด้วยเสียงผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ กันมากขึ้น
โดยเทคโนโลยีการจำเสียงพูดได้มีการนำไปใช้ ในฟังก์ชันต่าง ๆ มากมาย เช่น Siri จาก Apple หรือ Cortana จาก Microsoft ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้สามารถใช้ในการสอบถามเส้นทางไปร้านอาหารโปรด จนถึงการสอบถามพยากรณ์อากาศประจำวันได้ โดยเครื่องมือเหล่านี้จะใช้ระบบการประมวลผลแบบภาษาธรรมชาติที่ใช้เทคโนโลยี AI ประมวลผล และตอบคำถามให้กับผู้ใช้งานนั่นเอง
การตรวจจับรูปภาพ (Image Recognition)
การตรวจจับรูปภาพ ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อย่างมากในการนำมาใช้ในการพัฒนาแอปฯ โดย AI จะตรวจจับรูปภาพเป็นกระบวนการในการค้นหาวัตถุ หรือสิ่งของในรูปภาพที่เป็นดิจิทัล และวิดีโอ เพื่อให้เทคโนโลยีสามารถระบุรูปป้ายทะเบียนรถยนต์ วิเคราะห์กลุ่มผู้ใช้งานผ่านทางการสแกนใบหน้า และวิเคราะห์โรคได้นั่นเอง
สำหรับแอปฯที่มีการนำ AI การตรวจจับรูปภาพมาใช้ก็คือ Magisto ที่เป็นแอปฯสำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยทำการวิเคราะห์ภาพ และเสียงโดยอัลกอริทึ่มของ AI ที่จะวิเคราะห์ภาพ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์จากการเคลื่อนไหวของกล้อง การจดจำใบหน้า ความนิ่งของวิดีโอ และการตรวจจับวัตถุ ซึ่งหลังจากที่ AI ทำการวิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ก็จะทำการตัดต่อวิดีโอ หรือรูปภาพให้เราโดยอัตโนมัตินั่นเอง
การวิเคราะห์อารมณ์ (Emotion Recognition)
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของ AI คือความสามารถในการวิเคราะห์อารมณ์ของผู้ใช้งานจากการอ่าน และตรวจจับความรู้สึกของมนุษย์ผ่านทางใบหน้า ซึ่งเทคโนโลยีประเภทนี้ได้นำการประมวลผลภาพแบบก้าวหน้า และข้อมูลเสียงมาใช้ในการตรวจจับความรู้สึกของคนได้นั่นเอง นอกจากนั้นยังสามารถตรวจจับประสาทสัมผัสของมนุษย์ได้ด้วยการใช้เสียงสูง หรือเสียงต่ำ และสัญญาณทางคำพูดได้ด้วยนั่นเอง
ตัวอย่างของแอปฯที่มีการนำ AI การวิเคราะห์อารมณ์มาใช้งานได้อย่างดีก็คือ Replika เป็นแอปฯ AI ที่สามารถโต้ตอบกับเราได้แบบ Real-Time โดยแอปฯนี้มีเทคโนโลยี AI ที่คอยศึกษาพฤติกรรม และเลียนแบบผู้ใช้งาน โดยอาจจะมีการเรียนรู้จนเติบโต และฉลาดขึ้นได้ด้วยการสอน มีการพัฒนาตัวตนจนหลายคนคิดว่าเหมือนคุยอยู่กับคนจริง ๆ ซึ่งมาจาก AI ที่มีการเรียนรู้ และวิเคราะห์อารมณ์ของผู้ใช้งานนั่นเอง
การตรวจจับ และวิเคราะห์ตัวหนังสือ (Text Recognition)
การตรวจจับ และวิเคราะห์ตัวหนังสือ จะช่วยให้เราสามารถทำงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลตัวอักษรได้ง่ายขึ้น ด้วยความสามารถสกัดข้อมูลของ AI ให้ข้อมูลตัวอักษรทั้งจากเอกสาร หนังสือ หรือข้อมูลที่อยู่ในไฟล์ดิจิทัลให้สามารถนำเนื้อหาออกมาใช้งานต่อได้ นอกจากนั้นยังสามารถช่วยเช็คความถูกต้องของคำ และไวยากรณ์ได้อีกด้วย
นอกจากนั้น AI ตัวนี้ยังช่วยให้เราสามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้น เช่น แอปฯอย่าง Grammarly ที่จะช่วยเช็คความถูกต้องของคำ และไวยากรณ์ เพื่อช่วยให้การเขียนอีเมล์ของเราไม่มีคำผิด หรือแอปฯอย่าง Gmail ที่มีการแนะนำคำ และไวยากรณ์ที่ถูกต้องให้ โดยเครื่องมือเหล่านี้ได้มีการนำเทคโนโลยี AI และการประมวลผลภาษาธรรมชาติมาใช้งานนั่นเอง
ทำไมถึงควรทำแอปพลิเคชันกับ Launch Platform?
ปัญหาการทำแอปฯสำหรับธุรกิจ หรือบริษัท คือการที่ต้องการให้แอปฯมีระบบซับซ้อน และใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งมีไอเดียอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถดึงออกมาเป็นระบบจริง ๆ ได้ Launch Platform ของเรา มีความถนัดในการพัฒนาระบบที่ซับซ้อน และสามารถเปลี่ยนไอเดียของคุณให้กลายเป็นระบบที่ใช้งานได้จริงบนแอปฯได้ พร้อมติดตามการใช้งาน และให้คำปรึกษาในตลอดการใช้งานได้ ที่นี่ เลย
ที่มา: 1, 2, 3, 4