DEVELOP WEBSITE & MOBILE APPLICATION PLATFORMS FOR ALL

ในยุคดิจิทัลที่การทำธุรกรรมออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ เว็บไซต์ปลอมและกลโกงทางอินเทอร์เน็ตก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนอาจเคยเจอเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ แต่จริง ๆ แล้วเป็นกับดักที่จะขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือเงินของเรา การรู้วิธีที่สามารถตรวจสอบเว็บไซต์ก่อนใช้งานจึงถือเป็นทักษะที่สำคัญ ในบทความนี้ Launch Platform จะพาคุณไปรู้จัก วิธีตรวจสอบเว็บไซต์หลอกลวง เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกและให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัยกันค่ะ

กดเลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

วิธีตรวจสอบเว็บไซต์หลอกลวง

การรู้ วิธีตรวจสอบเว็บไซต์หลอกลวง ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการถูกโกงหรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งวิธีตรวจสอบเว็บไซต์หลอกลวงหลักๆ จะแบ่งออกได้หลายวิธี

ขอบคุณวิดีโอจาก : iT24Hrs

1. ตรวจสอบ URL อย่างละเอียด

ตรวจสอบชื่อโดเมนว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะเว็บไซต์ปลอมมักใช้ชื่อโดเมนที่คล้ายคลึงกับเว็บไซต์จริง แต่มีการสะกดคำผิดหรือใช้สัญลักษณ์เพิ่มเติม เช่น แทนที่จะเป็น example.com อาจเป็น examp1e.com หรือ example.co นอกจากนี้ ก็ควรตรวจสอบว่าเว็บไซต์ใช้โปรโตคอล HTTPS หรือไม่ โดยสังเกตสัญลักษณ์รูปกุญแจที่แถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ หากไม่มีก็อาจจะเป็นเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : รวมเว็บไซต์ตรวจเบอร์มิจฉาชีพ ก่อนกดโอนจริง

2. ตรวจสอบเนื้อหาและการสะกดคำ

เว็บไซต์ปลอมมักมีการสะกดคำผิด ใช้ไวยากรณ์ไม่ถูกต้อง หรือมีรูปแบบประโยคที่ไม่เป็นธรรมชาติ ถ้าหากพบเห็นควรระวังในการให้ข้อมูลส่วนตัว 

3. ตรวจสอบข้อมูลการติดต่อและรายละเอียดเว็บไซต์

เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือจะมีข้อมูลการติดต่อที่ชัดเจน เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล หากไม่มีข้อมูลเหล่านี้หรือข้อมูลดูไม่น่าเชื่อถือ ควรระวังหรือจะใช้บริการตรวจสอบโดเมน เช่น Whois เพื่อตรวจสอบรายละเอียดการจดทะเบียนโดเมน หากโดเมนถูกจดทะเบียนเมื่อไม่นานมานี้ แต่เว็บไซต์อ้างว่าเป็นบริษัทที่ก่อตั้งมานาน อาจเป็นสัญญาณของการหลอกลวงได้ค่ะ 

4. ใช้เครื่องมือตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

สำหรับการตรวจสอบความน่าเชื่อถือ คุณสามารถใช้บริการออนไลน์ อย่าง Scamadviser เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ โดยป้อนชื่อโดเมนของเว็บไซต์ที่ต้องการตรวจสอบ ระบบจะประเมินคะแนนความน่าเชื่อถือและแจ้งว่าเว็บไซต์นั้นเป็นเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้หรือไม่ค่ะ 

การเช็กเว็บไซต์ที่ปลอดภัย

5. ระวังลิงก์ที่ถูกย่อลง

มิจฉาชีพมักใช้บริการย่อลิงก์เพื่อซ่อน URL ที่แท้จริง ก่อนคลิกลิงก์ที่ถูกย่อ ควรใช้บริการขยายลิงก์ เช่น CheckShortURL เพื่อตรวจสอบว่า URL นั้นนำไปสู่เว็บไซต์อะไร

6. ตรวจสอบใบรับรอง SSL (SSL Certificate)

เว็บไซต์ที่ปลอดภัยจะมีใบรับรอง SSL ซึ่งจะแสดงสัญลักษณ์รูปกุญแจที่แถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ หากไม่มีสัญลักษณ์นี้หรือมีข้อความว่า ไม่ปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการกรอกข้อมูลสำคัญค่ะ

7. ระวังการขอข้อมูลส่วนบุคคลหรือการโอนเงิน

หากเว็บไซต์ที่คุณจะใช้งานขอข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงินโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน หรือขอให้โอนเงินไปยังบัญชีที่ไม่คุ้นเคย ควรระวังและตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์นั้นก่อนนะคะ 

8. ระมัดระวังการดาวน์โหลดไฟล์หรือแอปพลิเคชัน

หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์หรือแอปพลิเคชันจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากอาจมีมัลแวร์หรือไวรัสแฝงอยู่ได้ค่ะ

9. ตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งที่มา

หากได้รับข้อมูลหรือข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง ควรตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งที่มา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงก่อนดำเนินการใด ๆ 

10. ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและอัปเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ

การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันภัยคุกคามจากเว็บไซต์หลอกลวงได้ค่ะ 

เข้าเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยส่งผลกระทบอะไรบ้าง

เช็กเว็บหลอกลวง

1. ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล

เว็บไซต์ที่ไม่มีการเข้ารหัส SSL (Secure Sockets Layer) จะทำให้ข้อมูลที่ส่งผ่านระหว่างผู้ใช้กับเว็บไซต์สามารถถูกดักจับได้ง่าย เช่น รหัสผ่านหรือหมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น

2. ติดมัลแวร์หรือไวรัส

เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยอาจมีมัลแวร์หรือไวรัสที่สามารถติดตั้งลงในอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยไม่รู้ตัว ทำให้อุปกรณ์ทำงานผิดปกติหรือข้อมูลสูญหาย

3. อุปกรณ์อาจถูกแฮ็กหรือควบคุมจากระยะไกล

เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยอาจฝังโค้ดที่เปิดช่องโหว่ให้อุปกรณ์ของผู้ใช้ถูกควบคุมจากระยะไกล ทำให้ข้อมูลสำคัญถูกเข้าถึงหรือถูกใช้ในการโจมตีอื่น ๆ ได้ 

4. สูญเสียเงินหรือถูกฉ้อโกง

เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยอาจหลอกให้ผู้ใช้โอนเงินหรือทำธุรกรรมที่ไม่ปลอดภัย ทำให้สูญเสียทรัพย์สินได้ เช่น บางเว็บไซต์อาจใช้เทคนิค Phishing หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคาร ทำให้เงินถูกขโมยโดยไม่รู้ตัว หรือบางเว็บไซต์อาจเสนอสินค้าหรือบริการปลอม หลอกให้โอนเงินแต่ไม่ส่งของจริงให้ เป็นต้นค่ะ 

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ข้อมูลที่เรานำมาฝากกัน วิธีตรวจสอบเว็บไซต์หลอก สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ตรวจสอบ URL ให้ถูกต้อง และชื่อเว็บไซต์จะต้องไม่ผิดเพี้ยน รวมถึงสามารถค้นหาข้อมูลรีวิวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ดูว่ามีที่อยู่และช่องทางติดต่อจริงหรือไม่ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวหากไม่มั่นใจนะคะ ถ้าหากพบเว็บไซต์น่าสงสัย ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อป้องกันการโดนหลอกลวงค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ที่มาข้อมูล : 

  1. University of Denver : 5 URL Warning Signs to Watch For

  2. Memcyco : 7 Ways to Quickly Detect Malicious Websites

  3. Betterize : Dangers of visiting unsecured websites | betterize.pl


12 Jun 2025
Tags :



Writer
LAUNCHPLATFORM
Content Writer

บทความแนะนำที่เกี่ยวกับบริการ