10 เครื่องมือ AI ฟรี ที่ต้องใช้ในธุรกิจของคุณล่าสุด 2024
ยุคนี้แล้วจะให้มานั่งทำ Online Marketing ทั้งวัน ทุ่มแรงกายจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น อาจทำให้ธุรกิจของเราเติบโตช้า จะดีกว่าถ้าเรารู้จักใช้ AI เข้ามาช่วยอย่างเหมาะสม บทความนี้จะมาแนะนำ เครื่องมือ AI ฟรี ที่คุณไม่ควรพลาด
10 เครื่องมือ AI ฟรี ที่ต้องใช้ในธุรกิจของคุณล่าสุด 2024
เข้าปีนี้เตรียมตัวทำให้ธุรกิจของเราให้ก้าวกระโดดด้วยเครื่องมือ AI ที่สามารถช่วยงานได้หลายรูปแบบทั้งในเชิงการหาข้อมูล, วิเคราะห์ข้อมูล, จัดการรูปภาพ และช่วยทำ Content เป็นต้น โดยเราจะคัดเครื่องมือที่สามารถใช้งานได้ฟรี หรือมีระบบทดลองใช้ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเพิ่ม ดังนี้
1. ChatGPT AI สำหรับถาม-ตอบข้อมูล และแก้ปัญหา Coding
สำหรับ ChatGPT คงเป็น AI ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ โดยรูปแบบการใช้งานหลัก ๆ จะเป็นการหาคำตอบจากหัวข้อต่าง ๆ อย่างรวดเร็วโดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลเอง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ให้จัดข้อมูลออกมาในรูปแบบที่เราต้องการได้อีกด้วย สำหรับสาย Dev ที่ต้องใช้การทำ Coding จะสามารถช่วยลดระยะเวลาในการทำงาน หรือคนที่ Coding ไม่เป็นก็สามารถให้ ChatGPT ช่วยทำให้ได้เช่นกัน
จุดเด่น : ใช้งานง่ายในรูปแบบถาม-ตอบ และโดดเด่นในด้านการเขียน Code
จุดด้อย : ยังไม่สามารถตอบคำถามบางอย่างที่ซับซ้อนมากเกินไป ส่วนมากคำตอบที่ได้เป็นคำตอบที่เราสามารถหาได้เอง
ราคา : ChatGPT สามารถใช้งานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ตัว AI จะถูกจำกัดข้อมูล และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลไว้ในระดับหนึ่ง สามารถเสียค่าบริการเพิ่มเพื่อการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นปัจจุบันราคาถูกที่สุดอยู่ที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 680 บาทไทย)
บทความที่เกี่ยวข้อง : ChatGPT ระบบ AI สุดล้ำ ที่จะทำให้การทำงานของเราง่ายขึ้น
2. Rytr AI สำหรับเขียนบทความทำ Content
เครื่องมือตัวนี้เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเขียนบทความโดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่มีเวลาเขียนน้อย สามารถใช้ Rytr ช่วยได้ แล้วค่อยปรับแก้เพิ่มตามความเหมาะสม เครื่องมือ AI สายบทความมีให้เลือกใช้งานเยอะ แต่จุดเด่นที่สุดของ Rytr คือ ความเข้าใจในภาษาไทย และความคุ้มค่าเรื่องราคา
จุดเด่น : มีความเข้าใจภาษาไทยสูง และมีราคาที่ไม่แพง นอกจากนี้เครื่องมือที่ใช้งาน รวมถึง UI ยังสามารถใช้งานได้ง่าย
จุดด้อย : การเข้าถึงง่าย และการใช้ง่าย ทำให้แลกมากับระบบที่ไม่ได้หวือหวาอะไร
ราคา : Rytr สามารถใช้งานได้ฟรี ภายใต้ข้อจำกัด โดยจะจำกัดจำนวนคำในการให้ AI เขียน รวมไปถึงจำนวนของรูปภาพ สามารถเพิ่มข้อจำกัดเหล่านี้ให้มากขึ้นได้ด้วยการจ่ายเงินในราคาขั้นต่ำ 9 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 315 บาทไทย)
3. Mandala AI สำหรับวิเคราะห์ข้อมูล Users
การทำการตลาดสมัยใหม่จะขาดการวิเคราะห์ความสนใจของ Users ใน Social Media ไม่ได้ Mandala AI คือ เครื่องมือที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ เราสามารถกำหนด Keyword ที่เราต้องการรู้ว่า Users จากสื่อต่าง ๆ คิดอย่างไร ชอบโพสต์แบบไหน ชอบอะไรไม่ชอบอะไร หรือที่เราเรียกว่า “Social Listening” แต่เราจะปล่อยให้ AI ไปเก็บข้อมูลแทนเรา
จุดเด่น : ประหยัดเวลาในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความชอบใน Social Media ได้รวดเร็วกว่าทำเอง
จุดด้อย : ข้อมูลด้านอื่น ๆ ไม่ลึก นอกจากความชอบไม่ชอบแล้ว ส่วนอื่น ๆ ยังไม่ได้มีอะไรให้ใช้ประโยชน์ได้มากนัก
ราคา : สามารถใช้งานได้ฟรี รวมถึงมีแบบทดลองใช้ แต่มีข้อจำกัดมากพอสมควร สามารถเพิ่มระดับการใช้งานได้ด้วยการซื้อรายเดือนเริ่มต้นที่ 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 530 บาทไทย)
4. Vectorizer.AI
เครื่องมือสำหรับทำภาพประเภทเวกเตอร์โดยเฉพาะ ด้วยการอัปโหลดภาพเข้าไปในระบบเพื่อให้ AI ทำออกมาเป็นเวกเตอร์ เราสามารถใส่ได้ทั้งภาพคน สัตว์ ไปจนถึงภาพการ์ตูนต้นแบบ นอกจากนี้ AI ตัวนี้ยังมีความสามารถช่วยปรับรายละเอียดของภาพได้ หากมีภาพที่ไม่ชัด Vectorizer.AI จะช่วยปรับภาพให้ชัดขึ้นได้อีกด้วย
จุดเด่น : ใช้งานได้ง่าย ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดงานด้าน Graphic โดยเฉพาะ
จุดด้อย : อยู่ในระหว่างการพัฒนา อาจมีการทำงานที่ผิดพลาดบ้าง
ราคา : ในตอนนี้สามารถใช้งานได้ฟรีขณะที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา และยังสามารถเพิ่ม Limit การใช้งานด้วยการจ่ายเพิ่ม เริ่มต้นที่ 9.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 350 บาทไทย)
5. Shutterstock AI
เครื่องมือสำหรับ Generate รูปภาพจากทาง Shutterstock แบรนด์ที่มีชื่อเสียงในสายงานรูปภาพ AI ที่ทำรูปขึ้นมาเองหลายตัวถูกตั้งคำถามเรื่องลิขสิทธิ์ ต่างจาก Shutterstock AI ที่ออกข้อกำหนดชัดเจนว่าสามารถนำรูปที่ได้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้เลย ซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับทางเลือกที่จะใช้ AI ช่วยทำรูปภาพ
จุดเด่น : มีข้อกำหนดสามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้
จุดด้อย : ระบบยังอาจไม่หลากหลายหากเทียบกับ AI Generate รูปตัวอื่น ๆ
ราคา : สามารถลองใช้งานได้ฟรี แต่มีข้อจำกัดอย่างมาก สำหรับค่าใช้บริการเริ่มต้นอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 350 บาทไทย)
6. AnswerThePublic AI ช่วยวิเคราะห์ Keyword เชิงคำถาม
AI ตัวนี้มุ่งเน้นการใช้งานเพื่อค้นหาว่า Keyword ที่เรากำลังจะลงมือทำ มีการค้นหาในเชิงคำถามแบบไหนบ้าง เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไปว่าควรทำ Content ออกมาในรูปแบบต่อไป ลักษณะการใช้งานจะคล้ายกับการใช้เครื่องมือประเภทวิเคราะห์ Keyword ผู้พัฒนาเจ้าของเดียวกับ Ubersuggest ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี
จุดเด่น : สามารถโฟกัสเชิงคำถามได้ค่อนข้างดี สร้างไอเดียในการทำ Content ได้ดี และมีราคาไม่แพง
จุดด้อย : มีข้อจำกัดด้านฐานข้อมูลพอสมควร คล้ายกับเครื่องมือ Keyword คือ บางคำอาจไม่มีข้อมูลให้กับเรา
ราคา : สามารถทดลองใช้ได้ฟรีในแต่ละแพ็กเกจตามที่เราต้องการใช้ หากเลือกที่จะซื้อมีหลายราคาเริ่มตั้งแต่ 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 180 บาทไทย)
7. Otter.ai
AI ตัวนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องรายงานการประชุมได้ โดยการทำงานจะเป็นการถอดคำพูดออกมา เปลี่ยนจากเสียงเป็นตัวหนังสือ นอกจากนี้ยังสามารถ Track ได้ว่านาทีไหนคนไหนชื่ออะไรเป็นคนพูด นอกจากจะใช้สำหรับสรุปการประชุมแล้ว ยังสามารถนำไปใช้สำหรับแกะเสียงจากการสัมภาษณ์ได้ด้วย
จุดเด่น : สามารถทำงานแบบ Real Time ได้ สามารถใช้งานได้ง่าย และออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีในมือถือ
จุดด้อย : ราคาค่อนข้างสูง ไม่รองรับภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ ต้องรอการพัฒนาต่อไป
ราคา : ใช้งานได้ฟรี แต่มีข้อจำกัดมาก ใช้ได้แค่ 30 นาทีเท่านั้น ราคาค่าบริการในระดับการใช้งานที่สูงขึ้นเริ่มต้นที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 350 บาทไทย)
8. Grammarly AI ตรวจประโยคภาษาอังกฤษ
การเขียนประโยคภาษาอังกฤษสามารถนำมาตรวจ Grammar ได้ด้วยการใช้ Grammarly เพราะเรื่องของหลักการใช้ภาษามีความยาก และในงานที่เป็นทางการ หรืองานของบริษัทจำเป็นต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน Grammarly ถือเป็นเครื่องมือแรก ๆ ในสายนี้ และพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถวางใจในประสิทธิภาพการใช้งานได้แน่นอน
จุดเด่น : ใช้งานได้ง่าย แบบฟรีมีคุณภาพเพียงพอสำหรับการใช้งาน และทำงานร่วมกับ Microsoft ได้เป็นอย่างดี
จุดด้อย : หากต้องการใช้งานระบบที่มากขึ้น จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ราคา : สามารถใช้งานได้ฟรี กรณีที่ไม่เขียนเยอะ แต่ถ้าหากจะใช้ระบบเพิ่มเติมสามารถซื้อได้ในราคาถูกสุดที่ 11.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 350 บาทไทย) ซึ่งเป็นแผนแบบจ่ายรายปี หากจ่ายแบบรายเดือนราคาจะสูงกว่ามาก
9. PhotoRoom remove background
ในสายงานด้าน Graphic Design หรือผู้ที่ต้องการปรับแต่งรูปแบบเร่งด่วน แต่ติดปัญหาเรื่องพื้นหลังของภาพ PhotoRoom remove background สามารถช่วยได้ นอกจากจะช่วยลบพื้นหลังออกแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนพื้นหลังได้ด้วย AI ที่ทำแบบนี้ได้มีหลายตัว ส่วนมากจะใช้งานฟรีเหมือนกันหมด แต่ PhotoRoom remove background ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุดเครื่องมือหนึ่งเลย
จุดเด่น : ใช้งานฟรี มีประสิทธิภาพสูงหากเทียบกับ AI ประเภทเดียวกัน และมีเครื่องมืออื่น ๆ ให้เลือกใช้งาน
จุดด้อย : ถึงแม้ว่าจะทำงานได้ดี แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบโปรแกรมปรับแต่งภาพระดับสูงอย่าง Adobe Photoshop ได้
ราคา : เบื้องต้นสามารถใช้งานได้ฟรี ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มใด ๆ
10. Anissa AI ครอบคลุมสำหรับสาย Content โดยเฉพาะ
เป็น AI ที่เน้นการให้บริการเกี่ยวกับการสร้าง Content ถือว่ามีความสามารถที่ครอบคลุมมากตัวหนึ่งเลย ทั้งการเขียน Content, ทำบทความ SEO, ตรวจคำผิด และเปลี่ยน Mood&Tone ของ Content เป็นต้น นอกจากนี้ Anissa ยังถูกพัฒนาโดยทีมงานไทยอีกด้วย
จุดเด่น : สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ตัวเสียเงินมีราคาไม่แพง
จุดด้อย : หากใช้งานแบบฟรี จะเข้าถึงระบบการใช้งานได้น้อยมาก และฐานข้อมูลอาจยังไม่ใหญ่เท่ากับ ChatGPT
ราคา : สามารถทดลองใช้งานได้ฟรี 7 วัน แต่จำกัดไว้ที่ 15 บทความ รวมถึงเครื่องมือก็น้อยเช่นกัน สามารถซื้อแพ็กเกจเพื่อปลดระบบเริ่มต้นที่ 390 บาท/เดือน
นอกจาก AI ทั้ง 10 ตัวนี้ ยังสามารถใช้เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในองค์กร หรือธุรกิจด้านอื่น ๆ ที่มีความซับซ้อนได้ หากคุณกำลังสนใจในด้านนี้สามารถปรึกษาเรา Launch Platform ได้ตอนนี้!