5 อันดับโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรี ใช้ง่ายคุณภาพสูงปี 2024
รวมโปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บไซต์แบบฟรี ตอบโจทย์คนอยากมีเว็บไซต์แต่ไม่ต้องการลงทุนในตอนนี้ วันนี้เรามีโปรแกรมแพลตฟอร์มที่คนใช้งานมากที่สุดในโลก หากคุณกำลังมองหาโปรแกรมเหล่านี้ ติดตามได้ในบทความนี้
5 อันดับโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีปี 2024
ปัจจุบันการจะมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง อาจไม่ต้องลงทุนอย่างที่คิด การเลือกแพลตฟอร์มสำหรับทำเว็บไซต์แบบฟรีมีอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดหาได้ไม่ยาก แต่ทั้งหมดนั้นจะถูกจำกัดการใช้งาน ทำให้ไม่เหมาะต่อการทำเว็บไซต์ที่ต้องมีระบบซับซ้อน อย่างไรก็ตามเครื่องมือเหล่านี้ยังพอตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการมีเว็บไซต์แบบเบื้องต้น โดยลิสต์อันดับนี้จะยกเครื่องมือทำเว็บไซต์ฟรี ที่ใช้งานได้ง่าย, รองรับการแสดงผลบนมือถือได้ดี และมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก
บทความที่เกี่ยวข้อง : Wix ราคาเท่าไหร่? อัปเดตใหม่ปี 2024 พร้อมข้อมูลอย่างละเอียด
สนใจบริการ : รับทำเว็บไซต์ เริ่มต้นเพียงหน้าละ 3,500 บาท ออกแบบผ่าน UX/UI Designer พร้อมให้คำแนะนำด้าน SEO
1. สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress
สำหรับอันดับคงหนีไม่พ้นเจ้าตลาดอย่าง WordPress อย่างแน่นอน เครื่องมือของแพลตฟอร์มนี้ครบครันสำหรับผู้ที่ต้องการทำเว็บในรูปแบบเริ่มต้นพอสมควร และจะยิ่งใช้งานได้ดีหากรู้จักเครื่องมือ ทำให้สามารถออกแบบเว็บไซต์เชิงลึกได้ ด้วยพลังของ Plug-in ที่มีให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ถึงแม้การลงทุนกับ WordPress จะทำให้เราได้เครื่องมือที่ตอบโจทย์มาก แต่ก็ยังมีบริการใช้งานแบบฟรีเช่นกัน
การใช้งาน WordPress แบบฟรีมีข้อจำกัดหลายด้าน โดยเฉพาะลายน้ำของแพลตฟอร์มที่จะติดเว็บไซต์ของคุณไปตลอด รวมไปถึงขนาดของพื้นที่น้อยเกินไป แต่ถ้าหากคุณจะใช้อย่างจริงจังในตอนนี้แบบฟรี WordPress ก็ยังเป็นตัวเลือกแรกที่เราอยากให้ลอง
จุดเด่นของ WordPress แบบฟรี
ปรับแต่งเว็บไซต์ได้ตอบโจทย์สำหรับมือใหม่
มีจำนวน Plug-in จำนวนมาก
มีชื่อเสียงด้านการทำ SEO
เรียนรู้ได้ไม่ยาก เพราะหาคนสอนได้ง่าย
จุดด้อยของ WordPress แบบฟรี
ติดลายน้ำ
พื้นที่ของเว็บไซต์น้อยมาก
เมนูการใช้งาน (Interface) ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
การอัปเดต Plug-in เกิดขึ้นบ่อย เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาหากมีพื้นที่น้อย
2. สร้างเว็บไซต์ด้วย Wix
อันดับต่อมา คือ เว็บไซต์กึ่งสำเร็จรูปที่มาแรง และเติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง Wix ด้วยการพัฒนาเครื่องมือรูปแบบการใช้ที่เน้นความง่าย เป็นมิตรอย่างมากต่อผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำเว็บไซต์มาก่อน ด้วนการลากวางสิ่งที่ต้องการลงไปในเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้รูปแบบ Template ยังถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม แม้จะฟรีก็ตาม
ถึงแม้จะเด่นอย่างมากในเรื่องความง่าย และความสวยงาม แต่จุดที่น่าสังเกต คือ ระบบการใช้งานที่ยังไม่ลึกมากพอ อาจไม่ค่อยตอบโจทย์ หากต้องการเว็บไซต์แบบฟรี และนำไปใช้สำหรับธุรกิจของคุณ แต่ถ้าต้องการเว็บไซต์ที่เน้นรูปภาพ Layout สวยงาม ดูเหมือนว่า Wix จะตอบโจทย์ของคุณได้ดี
จุดเด่นของ Wix แบบฟรี
ใช้งานง่ายมาก แม้คนไม่มีประสบการณ์ทำเว็บไซต์มาก่อน
หน้าบ้านมีความสวยงามมากเป็นพิเศษ
แม้จะฟรีแต่สามารถติดต่อ Support ได้ง่าย
จุดด้อยของ Wix แบบฟรี
มีลายน้ำติดบนเว็บไซต์
มีความช้า เนื่องจากเว็บไซต์มีพื้นที่น้อยมาก
หากใช้งานเชิงลึกจะไม่ตอบโจทย์
3. สร้างเว็บไซต์ด้วย GoDaddy
แม้ GoDaddy จะโดดเด่นอย่างมากจากการให้บริการด้านการจด Domain Name และการให้เช่า Hosting ที่คนทำเว็บไซต์คงจะรู้จักแบรนด์นี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ทางด้าน GoDaddy ยังมีบริการให้สร้างเว็บไซต์แบบฟรีอีกด้วย อย่างไรก็ตามรูปแบบการใช้งานจะเน้นแบบสำเร็จรูป และไม่ได้เป็นบริการที่ทางแรนด์โฟกัส แต่สิ่งที่มั่นใจได้นั่นคือ ความเสถียรของเว็บไซต์คุณ
หากจะเทียบกับ WordPress และ Wix อาจไม่ได้ดีเทียบเท่า เพราะทุกอย่างอยู่ในระดับแค่พื้นฐานเท่านั้น แต่การใช้งาน GoDaddy ไปพร้อม ๆ กับการจด Domain Name และเช่า Hosting ในเวลาเดียวกัน จะทำให้การดูแล และการติดต่อขอความช่วยเหลือง่ายขึ้น
จุดเด่นของ GoDaddy แบบฟรี
ด้วยระบบทั้งหมดอยู่ในระดับพื้นฐาน ทำให้ใช้งานได้ไม่ยาก
ไม่มีลายน้ำติดบนเว็บไซต์ ซึ่งถือว่าหาได้ยาก
มีเครื่องมือฟรีที่น่าสนใจ เช่น การปรับแต่ง SEO โดยตรง และระบบ Chatbot เป็นต้น
จุดด้อยของ GoDaddy แบบฟรี
เครื่องมือไม่หลากหลาย ไม่ตอบโจทย์การใช้งานแบบซับซ้อน
ความสวยงามมีไม่มาก ดูเรียบง่ายจนเกินไป
4. สร้างเว็บไซต์ด้วย Google Sites
บริการสร้างพื้นที่ออนไลน์ฟรีจาก Google เอง การใช้งานแบบฟรีถือว่าคุ้มค่า เพราะเครื่องมือแทบทั้งหมดคุณสามารถเข้าถึงได้ ถึงแม้จะไม่ได้มีเครื่องมือที่โดดเด่น แต่จุดที่ได้เปรียบมาก คือ Google Sites รองรับการทำ SEO ได้ดีเป็นพิเศษ เพราะเป็นเครื่องมือของทาง Google เอง
หากเลือกใช้เครื่องมือตัวนี้ ไม่จำเป็นต้องสนใจรูปแบบเสียเงิน เพราะการเสียเงินจะเป็นเพียงการซื้อ Domain Name เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องการใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เหมาะสำหรับรูปแบบเว็บไซต์ที่เน้นการทำโพสต์ หรือ Blog เท่านั้น
จุดเด่นของ Google Sites แบบฟรี
สามารถใช้แบบฟรี และได้รับเครื่องมือที่สมบูรณ์ ไม่มีปิดกั้นให้ต้องจ่ายเงิน
สามารถทำ SEO ได้ดี เพราะเป็นเครื่องมือของทาง Google เอง
จุดด้อยของ Google Sites แบบฟรี
ความสวยงามไม่มาก ไม่ตอบโจทย์การทำเว็บไซต์ระดับสูง
เน้นการใช้งานเชิงการทำ Blog หรือแค่ลงรูปเท่านั้น ถือว่าพื้นฐานมาก ๆ
5. สร้างเว็บไซต์ด้วย Blogger
ตัวเลือกสำหรับสายฟรีตัวสุดท้าย คือ Blogger ที่มีความคล้ายกับ Google Sites จนแยกแทบไม่ออก นอกจากสีของโลโก้ สำหรับ Blogger จะเน้นไปที่ผู้ที่ต้องการทำเว็บไซต์สำหรับโพสต์บทความเป็นหลัก เพราะเครื่องมือที่มีให้ถูกออกแบบมาสำหรับการเขียนโดยเฉพาะ สามารถใช้งานได้ง่าย และเครื่องมือมุกอย่างสามารถเข้าถึงได้ในรูปแบบฟรี
ความสามารถในการทำ SEO ของเครื่องมือตัวนี้ก็สูงเช่นกัน เพราะเป็นของ Google เช่นเดียวกับ Google Site การเสียเงินเพียงอย่างเดียว คือ การซื้อโดเมนเท่านั้น แต่ถ้าหากเราไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้ในการทำเว็บไซต์ ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินกับอะไรเลย
จุดเด่นของ Blogger แบบฟรี
ใช้เครื่องมือทุกอย่างได้อย่างเต็มที่ในแบบฟรี
ทำ SEO ได้ดี
เครื่องมือใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
จุดด้อยของ Blogger แบบฟรี
ไม่ตอบโจทย์เรื่องความสวยงาม
ใช้ทำเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนไม่ได้
ทำเว็บไซต์ฟรี มีข้อจำกัดอย่างไร
จะเห็นว่าการใช้เครื่องมือออนไลน์ที่เรายกมาให้ สามารถใช้งานแบบฟรีได้จริง แต่มักจะเต็มไปด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างเสมอ ทำให้การทำเว็บไซต์ไม่เต็มประสิทธิภาพ นอกจากจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม อีกจุดหนึ่ง คือ เครื่องมือเหล่านี้ถึงจะจ่ายเงิน แต่หากจะใช้ในธุรกิจจะตอบโจทย์เฉพาะธุรกิจขนาดเล็กเท่านั้น หากต้องการทำเว็บไซต์สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ไม่ควรใช้เว็บไซต์ฟรี ควรจ่ายเงินในการใช้บริการเหล่านี้ ซึ่งราคาเว็บไซต์ จะขึ้นอยู่กับระบบที่ต้องการออกแบบ หากระบบที่ต้องการมีความซับซ้อนจะทำให้ราคาในการทำเว็บสูงขึ้น
โปรแกรมทำเว็บไซต์ราคาเท่าไหร่ เสียเงินแล้วคุ้มไหม
แม้หลายโปรแกรมที่ใช้สำหรับพัฒนาเว็บไซต์จะถูกจำกัดฟังก์ชันหลายอย่าง แต่สามารถปลดล็อกผ่านการจ่ายเงินเป็นรายเดือน หรือรายปีได้ คำถามคือ การจ่ายเงินไปนั้นคุ้มหรือไม่ เรื่องนี้เราคงให้คำตอบได้ยาก เพราะความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะการตอบโจทย์ด้านการใช้งานที่คุณต้องการ หากโปรแกรมที่คุณจ่ายเงินไป มีระบบครบถ้วนรองรับธุรกิจของคุณ ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี แต่สิ่งหนึ่งที่คุณอาจต้องระวังไว้ คือ ทุกโปรแกรมถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย และต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกโปรแกรมจะไม่ได้สมบูรณ์ เต็มไปด้วยจุดเด่น และจุดด้อยหลายอย่าง
อีกทั้งหากต้องการระบบที่ซับซ้อนมากเกินไปอาจดีกว่าเมื่อหันไปทำเว็บแบบ Custom Made แต่ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายในการพัฒนาที่สูงเช่นกัน ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกสักโปรแกรมหนึ่ง จึงต้องคิดทบทวนให้ดี ถึงความเหมาะสม และต้นทุนที่คุณมีในตอนนี้ โดยทั่วไปราคาของโปรแกรมเหล่านี้จะอยู่ที่ประมาณ 600 บาท/เดือนขึ้นไป
สำหรับเว็บไซต์ของธุรกิจขนาดใหญ่จะต้องมีการจดโดเมน รวมถึงการทำระบบหลังบ้านที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องเลือกใช้งานการทำเว็บไซต์แบบ Customize จะตอบโจทย์กว่ามาก หากคุณกำลังมองหาเว็บไซต์รูปแบบนี้สามารถติดต่อ Launch Platform เพื่อรับคำปรึกษาได้
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้: