โปรแกรม CMS มีไว้สำหรับการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ เป็นที่แพร่หลายในยุคปัจจุบัน เพราะสามารถเข้าใช้งานได้ไม่ยาก ราคาไม่สูง ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกในการเว็บไซต์ก็ใช้งานได้ดี บทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับระบบ CMS อย่างลึกซึ้ง อ่านจบแล้วลองตัดสินใจดูว่าระบบ CMS ที่ดีควรต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง
CMS คืออะไร
CMS ย่อมาจาก Content Management System คือ เครื่องมือที่ถูกออกแบบขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำมาใช้งานในการจัดการ และบริหารเนื้อหาต่าง ๆ บนเว็บไซต์ โดยจะเน้นให้สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกในการพัฒนาเว็บไซต์ โดยปกติแล้ว CMS มักจะถูกสร้างด้วยภาษาคอมพิวเตอร์อย่าง PHP หรือ HTML เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : 30 ตัวอย่าง Web Design ไอเดียออกแบบหน้าเว็บ 2024
โปรแกรม CMS มีอะไรบ้าง
หากคุณยังนึกภาพไม่ออกว่า CMS มีอะไรบ้าง การยกตัวอย่างง่าย ๆ คือ WordPress ถือเป็นหนึ่งใน CMS ที่มีชื่อเสียงที่สุดในตอนนี้ ดังนั้นเครื่องมือที่มีความคล้ายกับ WordPress จึงถือเป็น CMS ทั้งหมด เช่น GoDaddy หรือ Wix เป็นต้น โดยจะมีจุดร่วมคล้ายกัน คือ สามารถใช้งานได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่อง Code นั่นเอง
ระบบที่โดดเด่นใน CMS มีอะไรบ้าง
การใช้งานระบบ CMS ทำให้สามารถควบคุมเว็บไซต์ได้ไม่ยาก เพราะมีระบบเด่น ๆ ให้ใช้งานมากกว่าที่คิด และมักมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละราย ตัวอย่างเช่น
Administration Panel : ระบบการจัดการ และควบคุมระบบที่สามารถเข้าใช้งานได้ง่าย สามารถจัดการข้อมูลต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ได้ทั้งหมด
Articles : ระบบการดูแลจัดการบทความ ถือเป็นระบบใหญ่อย่างหนึ่งใน CMS เพราะมีส่วนสำคัญอย่างมากในเว็บไซต์ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการทำ SEO
Web Directory : ระบบการเก็บ Links ภายในเว็บไซต์ให้เป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ โดยจะมีเนื้อหาที่สัมพันธ์กัน ทำให้สามารถศึกษาข้อมูลได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
Member : ระบบจัดการสมาชิก สำหรับดู และตรวจสอบแก้ไขผู้ใช้งานที่สมัครเป็นสมาชิกเข้ามาจาก Google หรือการสมัครผ่านอีเมล เป็นต้น
Search : ระบบสำหรับการสืบข้อมูลตาม Keyword เพื่อเรียกใช้งานเมนูต่าง ๆ หรือเรียกดูเนื้อหาที่มีภายในเว็บไซต์ โดยที่ไม่ต้องนั่งไล่หาเอง
นอกจากนี้ยังมีระบบอื่น ๆ ให้ได้ใช้กัน เช่น การจัดการพื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ (Banner), ระบบวิเคราะห์ค่าสถิติของเว็บไซต์ (Analysis) และระบบพื้นที่ในการสนทนา (Forum) เป็นต้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจจะเลือกใช้ระบบ CMS ควรศึกษาแต่ละผู้ให้บริการให้ดีก่อนว่า มีอะไรให้ใช้งานบ้าง

วิธีเลือกใช้โปรแกรมระบบ CMS
เนื่องจากมีหลายโปรแกรมให้เลือกใช้งานในปัจจุบัน แม้จะมีจุดประสงค์ในการนำมาใช้ควบคุมจัดการเว็บไซต์ แต่โปรแกรมเหล่านี้จะถูกออกแบบมาให้มีวิธีใช้งานที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกให้ดีก่อน ดังนี้
คัดเลือกโปรแกรมที่ต้องการใช้งาน : ให้เริ่มจากการคัดเลือกโปรแกรมที่อยากลองใช้ก่อน ยิ่งถ้าเป็นโปรแกรมที่สามารถลองใช้ฟรี หรือมีช่วงทดลองใช้ยิ่งดี ซึ่งมีอยู่หลายโปรแกรม ไม่ใช่แค่ Wix หรือ WordPress เท่านั้น
ทดลองใช้เครื่องมือต่าง ๆ : ให้ทำการทดลองใช้ดูก่อน โดยที่ยังไม่ต้องเสียเงิน เนื่องจากแต่ละโปรแกรมจะมีระบบการใช้งานที่ยากง่ายไม่เท่ากัน ต้องลองใช้เพื่อดูว่าโปรแกรมไหนเข้ามือของคุณมากกว่า
เทียบ Plan ที่ต้องการจ่ายเงิน : ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อเลือกโปรแกรมได้แล้ว ก่อนซื้อใช้งานควรดูให้ดีว่า Plan ที่เราเลือกนั้นมีระบบทั้งหมดที่ต้องการหรือไม่ และการจ่ายแบบไหนถึงจะคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งโดยทั่วไประบบทั้งหมดมักจะอยู่ใน Plan ระดับกลาง และมีค่าใช้จ่ายให้เลือกรายเดือน กับรายปี
เนื่องจากการใช้งาน CMS ให้ได้มีประสิทธิภาพควรจะต้องจ่ายเงินเพื่อปลดล็อกระบบทั้งหมด แต่ไม่ได้หมายความว่าการจ่ายครั้งนี้จะทำให้คุณมีเว็บไซต์ในทันที เนื่องจากยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างเว็บไซต์ คุณควรศึกษาก่อนว่า Plan ที่คุณเลือกจ่ายนั้นรวมค่า Domain Name และค่า Hosting แล้วหรือยัง

ระบบเว็บไซต์แบบ Custom Made มีเครื่องมือ CMS หรือไม่
จะเห็นได้ว่าเครื่องมือที่เรายกตัวอย่างในบทความนี้ เป็นเครื่องมือที่ถือว่าเป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ จึงอาจสงสัยว่ากรณีที่คุณจะสร้างเว็บไซต์แบบ Custom Made หรือเว็บไซต์สั่งทำเฉพาะจะมีระบบ CMS ที่ครอบคลุมเท่ากันหรือไม่ คำตอบ คือ ขึ้นอยู่กับว่าคุณตกลงกับทีม Developer ไว้ว่าอย่างไรบ้าง
กรณีนี้คุณควรลิสต์ออกมาตั้งแต่ช่วงวางแผนสร้างเว็บไซต์ว่าต้องการให้มี CMS หลังบ้านครอบคลุมถึงการแก้ไขด้านใดได้บ้าง คุณควรลิสต์ออกมาให้สมบูรณ์ที่สุด เนื่องจากโดยปกติแล้วทีม Developer จะทำเว็บไซต์ออกมาตามใบสั่งเท่านั้น หากไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าต้องมี คุณก็อาจไม่ได้รับระบบดังกล่าว ทำให้ต้องกลับมาจ้างแก้ไขระบบหลังบ้านเพิ่มเติม หรือต้องจ้างทำ MA (Maintenance Service) ต่อไปอีก
โปรแกรมที่เป็นระบบ CMS ทำให้คุณสามารถเข้าถึงการปรับแต่งเว็บไซต์ในจุดที่ต้องการได้ ขอบเขตที่สามารถทำได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกใช้บริการผ่านโปรแกรมไหน ด้วยเหตุนี้การที่จะมีเว็บไซต์ของตนเองจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อใคร ๆ ก็มีเว็บไซต์ได้ เราบริษัท Launch Platform จึงอยากดูแลเรื่องการสร้างเว็บไซต์ให้กับคุณ เพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่เหนือกว่า ดีกว่าของคู่แข่งทางธุรกิจของคุณ
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:
ที่มาข้อมูล :1, 2