สรุป 8 เทรนด์การตลาดปลายปี 2024 เทรนด์ไหนรอด ไม่รอด
บทความนี้เราจะรวบรวม เทรนด์การตลาดปลายปี 2024 ว่าจุดน่าสนใจที่มีตอนนี้คืออะไรบ้าง และเทรนด์ไหนที่กำลังซบเซาในตอนนี้ตามแนวคิด และการวิเคราะห์ของเราตลอดปีนี้ที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้คุณสามารถวางแผนการทำงานในปี 2025 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กดเลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
8 เทรนด์การตลาดปลายปี 2024 มีอะไรบ้างที่ต้องรู้
ในช่วงปลายปี 2024 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อชัดเจน เพราะตลอดปีที่ผ่านมานี้เกิดเหตุการณ์สำคัญหลายอย่าง การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ที่หลายอย่างล้มหายไป หลายอย่างแข็งแกร่งจนเห็นได้ชัด มาดูกันดีกว่าว่า 8 เทรนด์ที่คุณต้องรู้ตอนนี้มีอะไรบ้าง
ถ้าคุณสนใจเรื่อง เทรนด์การตลาดปลายปี 2024 : อย่ามองข้ามบทความนี้ :
8 เทคนิคใช้งาน Google Trends 2024 อย่างมืออาชีพ
1. Artificial Intelligence Tools พัฒนาไม่หยุด
การทำการตลาดสมัยใหม่ คือ การใช้เวลาทำงานให้น้อยลง แต่ยังคงได้ผลงานที่มีคุณภาพเท่าเดิมอยู่ สิ่งที่เข้ามาตอบโจทย์เราในเรื่องนี้ตั้งแต่ปลายปี 2023 คือ การใช้ AI ต่าง ๆ เข้ามาช่วยทำงาน เมื่อวงการดิจิทัลออนไลน์ได้รู้จักกับ ChatGPT ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป หลายบริษัทได้มีการพัฒนาเครื่องมือ AI ของตนเองเข้ามาช่วยในการทำงานมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันตัวที่มีชื่อเสียงที่สามารถช่วยงานได้ ตัวอย่างเช่น
Gemini : เครื่องมือ AI ที่มีทิศทางในการพัฒนาคล้าย ChatGPT แต่มีฐานข้อมูลในการเรียนรู้ที่ใหญ่กว่า เพราะผู้พัฒนาเป็น Google นั่นเอง ทำให้ AI ตัวนี้เป็นที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้
Mandala AI : ตัวนี้เป็นตัวช่วยในการรวบรวมข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายสำหรับวางแผนทำ Content Marketing โดยจะแสดงข้อมูลจำพวกเพศ และการตอบสนองต่อเนื้อหาที่ผู้ใช้งานชื่นชอบ เป็นวัตถุดิบในเชิงวิเคราะห์ก่อนลงมือทำงานสาย Content ที่ดีมาก
HubSpot : ผู้ช่วยจัดการข้อมูลของลูกค้า เป็นเหมือนเครื่องมือจับฉ่ายประเภท CRM ที่มีมานานแล้ว และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หากคุณเป็นคนทำธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก การให้ HubSpot เข้ามาช่วยจัดการ และวิเคราะห์ลูกค้าเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
DALL-E : คิดรูปอะไรไม่ออกให้บอก DALL-E สำหรับ AI ตัวนี้เป็นตัวที่เอาไว้ทำภาพจากคำอธิบาย จุดเด่นคือ ความง่ายในการใช้งาน และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (แม้แต่บางภาพในบทความนี้ยังใช้ AI ช่วยออกแบบเลยนะจะบอกให้) แต่ปลายปี 2024 นี้เองได้มี AI สายรูปภาพเกิดขึ้นมาใหม่ไม่น้อย เราคงต้องดูต่อไปว่าในปี 2025 DALL-E จะยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหรือไม่
2. Easy with Canva การกลืนกินวงการนักออกแบบ
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เรามีความต้องการสกิลการใช้งานเครื่องมือด้านการออกแบบโดยเฉพาะ Photoshop แต่ช่วงหลังมานี้ได้เกิดมีเว็บไซต์อย่าง Canva เข้ามามีบทบาทสำคัญด้วยการนำเสนอการใช้งานฟรี มีเทมเพลตสวย ๆ ในการออกแบบที่ถูกจัดมาตามหมวดหมู่หลากหลาย สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ ทั้งหมดนี้สามารถใช้งานได้ภายใต้แนวคิด “การคลิก และลากวาง”
ปัจจุบัน Canva เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเร็ว ๆ มานี้มีการผลักดันการใช้ AI เข้ามาช่วยงานออกแบบ ทำให้เพิ่มขีดจำกัดไปได้อีก รวมถึงการออกแบบเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานได้ง่าย อดคิดไม่ได้เลยว่าในปี 2025 แนวทางของ Canva จะเป็นอย่างไร เพราะถ้าวัดแนวทางที่ผ่านมาทั้งหมด อัตราส่วนที่จะประสบความสำเร็จถือว่าสูงมาก ๆ ถ้าใครที่ต้องทำงานเกี่ยวกับ Content แต่ไม่อยากรอคิวงานดีไซน์ เราแนะนำให้ลองใช้ Canva เลยตอนนี้
ขอบคุณวิดีโอจาก : Design with Canv
3. Video Marketing Breakout พฤติกรรมที่คนเสพวิดีโอมากกว่ารูปภาพ
ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากที่มี TikTok เข้ามา ด้วยการนำเสนอเน้นแค่วิดีโอเท่านั้น แม้จะดูขาดความหลากหลาย แต่กลับกลายเป็นว่าวิดีโอสั้น ๆ ที่ให้เราดูไม่กี่วินาที ก่อนจะเริ่มวิดีโอตัวถัดไปกลายมาเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรานอนดึก และความสำเร็จนี้ทำให้ Meta เริ่มทำตามอีกด้วย ในแวดวงของการตลาดออนไลน์ก่อนหน้านี้โฟกัสเพียงการทำภาพกราฟิกนำเสนอข้อมูล แต่ตอนนี้ต้องหันมาทำวิดีโอเพื่อนำเสนอสินค้าของตนเองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลจากทาง Google Search เองได้เปิดเผยว่าช่วงปี 2024 ผู้คนมักจะเสพ Content จากการค้นหา โดยมุ่งเน้นไปที่การดูวิดีโอนับเป็น 80% ของการค้นหาทั้งหมด ถือว่าเป็นสัญญาณสำคัญ หากคุณไม่อยากพลาดเทรนด์การตลาดในปีหน้า เราแนะนำว่าควรวางแผนในการทำ Content วิดีโอเอาไว้ และต้องมีคุณภาพที่สูงเนื่องจากปัจจุบันมีหลายธุรกิจที่เข้าไปจับจองเส้นทางนี้ ก่อนที่บทความนี้จะถูกเขียนขึ้นมาซะอีก ส่วนวิดีโอที่ได้ผลในปัจจุบัน มักมีแนวทางดังนี้
เน้นขายของในวิดีโอแบบไม่ขาย คือ นำเสนอให้สนุกสนาน น่าติดตามมากกว่ามาพูดขายตรง ๆ
วิดีโอที่พูดถึงข้อดี แล้วต้องมีข้อเสียด้วย ให้ดูว่าจริงใจ ไม่ใช่การนำเสนอเพียงด้านเดียว
วิดีโอที่สั้น กระชับ ได้ใจความ แต่ถ้าวิดีโอจะยาว เสียงคนบรรยายต้องน่าฟังมาก ๆ
การสร้างเอกลักษณ์ประจำช่องวิดีโอนั้น ๆ เช่น กระแสของ Slip Away ที่แพร่หลายในปลายปีนี้จากผลงานของ Johnny Valentine ใน IG และ YouTube ที่นำเสนอ Content ง่าย ๆ เพียงการหันหน้ามองคนแปลกหน้า แล้วยิ้มให้เท่านั้นเอง ทั้งที่แท้จริงแล้วเป็นการทำไปเพื่อโปรโมทเพลงของตัวเขา
ขอบคุณวิดีโอจาก : Johnny Valentine
4. Influencer Falling ในยุคที่กำลังถดถอย
เมื่อสัก 3-4 ปีก่อน การใช้ Influencer เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก หลายแบรนด์ หรือธุรกิจตั้งตัวได้ ก็ด้วยการใช้เทคนิคนี้เลยก็ว่าได้ แต่ก็ตามระเบียบอะไรดี มักจะมีคนทำตามต่อ ๆ กันไป จนในที่สุดตอนนี้มีแต่วิดีโอรีวิวสินค้าเต็มไปหมด จนลูกค้าแอบต่อต้านมากขึ้นเรื่อย ๆ และในช่วงปลายปี 2024 มูลค่าของการตลาดสายนี้ก็ลดความสำคัญลงไปพอสมควร จากที่เคยได้ผล ก็เริ่มที่เงียบและซบเซาลงไปอย่างเห็นได้ชัด
สาเหตุมาจากการที่ลูกค้าเริ่มรู้แล้วว่าการรีวิวก็คือการรีวิว Influencer คนนั้น ๆ ที่พวกเขาติดตามอาจไม่ได้ใช้งานสินค้านั้นจริง ๆ เป็นเพียงการทำงานรีวิวแลกเงินเท่านั้น ลูกค้าจึงหันไปหาข้อมูลที่จริงจัง หรือรีวิวที่จริงใจมากกว่านั่นเอง
5. The Power of Mobile การตลาดบนมือถือที่ทรงพลัง
คนที่อ่านบทความนี้มีใครบ้างที่ไม่ใช้เวลาว่างไปกับมือถือ? ปัจจุบันมือถือเข้ามามีบทบาทในสื่อออนไลน์เป็นจำนวนมาก ทำให้เทรนด์การตลาดปลายปี 2024 หลายบริษัทวางแผนการนำเสนอสินค้า และบริการตนเองผ่านมือถือ ด้วยการปรับขนาดรูปภาพเพื่อการแสดงผลที่ดี ไปจนถึงการทำแอปพลิเคชัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าบริการได้อย่างง่ายดาย ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง
6. Metaverse Trending ที่เกือบจะหมดความสำคัญ
เมื่อ 2 ปีก่อน ใคร ๆ ก็อยากจะทำ Metaverse กันทั้งนั้น มีโปรเจกต์งอกออกมาเป็นดอกเห็ดเลย แม้คุณจะไม่สนใจแต่ก็คงเคยได้ยินจนหลอนหูมาบ้าง แต่นับตั้งแต่ต้นปี 2024 มาจนถึงปลายปี สิ่งนี้กลับเลือนหายไป โปรเจกต์ที่ทำมาถ้าไม่ล้มตาย ก็ถูกหยุดพัฒนาไปก่อน เหตุผลที่ทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น คือ “การเร่งพัฒนามากกว่าคุณภาพ และไม่มีใครทำได้จริงในเวลานี้” การทำโลกเสมือนจริงไม่ใช่เรื่องง่าย ในขณะที่หลายคนพยายามจะพัฒนาให้ออกมาดี กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ใกล้เคียงคำว่า Metaverse มากที่สุดกลับเป็นเกมอย่าง The Sims และ Roblox ซะงั้น
ความล้มเหลวที่จะทำโปรเจกต์โลกเสมือนจริงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เทรนด์การตลาดแบบนี้ค่อย ๆ ถูกลดความสำคัญลง และคนมองว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ประกอบกับการใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่ทำให้เราเริ่มคุ้นชินกับ Covid-19 จนการออกมานอกบ้านเป็นเรื่องปกติ ไม่จำเป็นต้องนั่งหน้าคอมทั้งวันแบบแต่ก่อนก็มีส่วนสำคัญในการทำลาย Trend ของ Metaverse เช่นกัน
7. Privacy and Security ความกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัว
หากคุณสังเกตอีกเทรนด์ที่มาแรง คือ ความกังวลของลูกค้าเกี่ยวกับมิจฉาชีพ ทำให้ยุคนี้ไม่ว่าจะพยายามทำการตลาดแบบไหน ก็มักจะถูกตั้งคำถามเรื่องความน่าเชื่อถืออยู่ดี โดยเฉพาะเรื่องของการกรอกข้อมูลในสื่อต่าง ๆ จึงสำคัญมากที่ธุรกิจของคุณ ควรหันมาสนใจในการนำเสนอความเชื่อมั่น และความน่าไว้วางใจมากขึ้นจากเทรนด์นี้ เพราะเท่าที่เราสังเกตมา การปรับเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงของมิจฉาชีพ มีแต่จะทำให้ลูกค้ามีความกลัวที่จะทำการซื้อขายบริการต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน
8. SEO Is King ราชาของการขายของคือ Organic
ในขณะที่หลายบริษัททุ่มงบในการทำการตลาดอย่างดุเดือด วิธีการทำการตลาดที่ไม่เคยตก Trend เลยปม้แต่น้อย และไม่หวั่นไหวกับกำเนิดของ AI แต่กลายเป็นว่าเกิดการปรับตัว และการพัฒนารูปแบบการทำงานให้ดีกว่าเดิม สิ่งที่เรากำลังพูดถึง คือ เทรนด์การทำ SEO ในปลายปี 2024 นี้ เนื่องด้วยเมื่อก่อนการทำงานสายนี้ต้อง Work Hard มาก ๆ แต่ตอนนี้กลับ Work Smart แทนจากการใช้ AI เข้ามาช่วยเหลือ
ดังนั้นการทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Google จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะใช้ต้นทุนน้อยกว่าการตลาดแบบอื่น ๆ อย่างชัดเจน แม้จะใช้เวลานานกว่าก็ตาม แต่ถ้าตอนนี้คุณยังไม่เริ่มทำ อาจจะบอกได้เลยว่านอกจากคุณจะตกเทรนด์แล้ว คุณยังเสียเปรียบคู่แข่งทางธุรกิจที่อาจลงมือทำ SEO แล้วก็ได้
สรุป
“เทคโนโลยี” คำนี้คำเดียวที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เหมือนตอนก่อนการมาถึงของคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต มาตอนนี้โลกกำลังเผชิญกับ AI ที่ถือว่าเป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุด และที่ขาดไม่ได้ คือ เทรนด์การทำ SEO ที่จะช่วยรักษามูลค่าของธุรกิจคุณในระยะยาวได้ หากคุณสนใจบริการทำ SEO แบบ Organic คุณภาพสูง สามารถติดต่อเรา Launch Platform ได้เลย เรายินดีรับฟังคุณเสมอ
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:
ที่มาข้อมูล :
Digital Marketing Institute : Key Digital Marketing Trends for 2024
