แชร์การทำ SEO ให้ติดหน้าแรก Google จากประสบการณ์จริง
การแข่งขันในตลาดออนไลน์สมัยนี้มีความดุเดือดอย่างมาก ต้องใช้งบประมาณในการทำการตลาดออนไลน์ที่สูง แต่ยังมีอีกวิธีที่เรารู้จักกันดี นั่นคือการทำ SEO ที่ได้รับความนิยม ทำ SEO ให้ติดหน้าแรกแบบ Organic สามารถตอบโจทย์ได้ทุกธุรกิจ หากคุณสนใจ เราจะเล่าให้ฟังผ่านประสบการณ์จริงที่เราลงมือทำ โดยจะเล่าให้คุณฟังแบบเข้าใจง่ายที่สุด
กดเลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
ทำ SEO ให้ติดหน้าแรกบน Google ไม่ยากถ้าคุณเข้าใจ
ถ้าคุณเข้ามาอ่านบทความนี้ แสดงว่าคุณต้องการติดอันดับในหน้าแรกของ Google ด้วยวิธี Organic คือ เน้นวิธีการแบบธรรมชาติ ใช้ต้นทุนน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณมาถูกทางแล้ว เพราะบริษัท Launch Platform มีเรื่องเล่าการทำ SEO จากประสบการณ์ตรงที่ได้ทดสอบวิธีหลาย ๆ อย่างจนได้คำตอบแล้วว่าคุณควรทำอย่างไรเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณแข็งแรงมากพอจะติดที่หน้าแรกได้
ด้วยผลงานการทำเว็บไซต์ของเราเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2024 มาจนถึงช่วงกลางปี รวมเวลาประมาณ 6 เดือน ด้วยต้นทุนการทำ Backlinks ทั้งสิ้น 0 บาท แล้วเราทำได้อย่างไร? เราเน้นที่การวางโครงสร้างตั้งแต่เว็บไซต์ยังไม่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ ไปจนถึงการลงบทความ SEO ประสิทธิภาพสูง และมีการปรับแผน การปรับเปลี่ยนแนวทางอยู่เรื่อย ๆ นับตั้งวันแรกที่เราทำจนถึงตอนนี้ เราสามารถติดหน้าแรก และมียอดการคลิกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจึงจะมาเล่ามา จุดสำคัญที่พาเรามาถึงจุดนี้ เราได้ลงมือทำอะไรไปบ้าง
ถ้าคุณสนใจเรื่อง การทำ SEO ให้ติดหน้าแรก อย่ามองข้ามบทความนี้ : จ้างทำ SEO ราคาเท่าไหร่ จริงไหมที่ลงทุนน้อยแต่ได้ผลดี
1. สร้างโครงสร้างของเว็บไซต์อย่างละเอียด
สิ่งที่เราต้องมีก่อนทำเว็บ คือ Sitemap นั่นเอง เป็นการบอกว่าเว็บไซต์ของเราจะมีเมนูไหน มีหน้าอะไรบ้าง การแจกแจงจะทำเป็นแผนผังเพื่อให้ง่ายต่อทีมพัฒนาเว็บไซต์ ในจุดนี้ทำไม่ยาก หากคุณเป็นมือใหม่สามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์คู่แข่งว่ามีหน้าเว็บอะไรบ้าง กดแล้วพาไปไหนบ้าง องค์ประกอบแต่ละหน้าเป็นอย่างไรบ้าง ขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลานาน แต่จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเว็บไซต์ตั้งแต่ต้นจนจบ
2. ทำการวางแผน Keyword อย่างต่ำ 2 เดือน
Keyword คือ คำที่คุณต้องการให้มีในเว็บไซต์ และเป็นคำที่คุณต้องการให้ไปติดใน Google ด้วยเช่นกัน คำเหล่านี้ควรมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับบริการที่บริษัทของคุณมี หรือมีความเกี่ยวข้องกับสินค้าที่คุณขาย ไม่ควรไปจับคำอื่นหากไม่เกี่ยวกันเลย เช่น ถ้าคุณขายเสื้อผ้า ก็ไม่ควรเลือก Keyword ด้านสุขภาพ เป็นต้น เพราะเรื่องสุขภาพ จะเป็นของเว็บไซต์โรงพยาบาล หรือคลินิกนั่นเอง
การวางแผนในช่วงนี้ควรเตรียม Keyword ให้พอใช้ประมาณ 2 เดือน โดยแต่ละคำจะถูกนำไปเขียนเป็นบทความในเว็บไซต์ และนำไปปรากฏตามส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ด้วย หากคุณเลือกคำที่นำมาใช้พลาด จะทำให้ Google ไม่เข้าใจในตัวตนของเว็บไซต์ และเสี่ยงต่อการพลาดการจัดอันดับในคำที่คุณต้องการในที่สุด
สนใจบริการ : รับทำเว็บไซต์ เริ่มต้นเพียงหน้าละ 3,500 บาท ออกแบบผ่าน UX/UI Designer พร้อมให้คำแนะนำด้าน SEO
3. ควรทำอะไรระหว่างรอเว็บพัฒนา เพื่อช่วยกระตุ้น SEO
เมื่อเราอยากทำ SEO แต่ยังติดที่ว่าเว็บไซต์ยังพัฒนาไม่เสร็จ นอกจากการวางแผนการทำ SEO การค้นหา Keyword ที่จะนำไปใช้จริงแล้ว ยังมีอีกหลายอย่าง ที่สามารถทำได้ก่อน แม้ว่าจะยังไม่มีเว็บไซต์ก็ตาม โดยแต่ละวิธีมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
3.1 เขียนบทความ SEO ล่วงหน้า
อย่างแรกที่จะขาดไปไม่ได้ คือ การสะสมบทความเอาไว้ก่อนโดยให้เริ่มเขียนจาก Keyword ที่ได้วิเคราะห์มา เรียงลำดับจาก Keyword ที่มีการแข่งขันไม่สูงก่อน แล้วจึงค่อย ๆ ไล่ระดับไป การสะสมบทความล่วงหน้า จะทำให้การทำ SEO ช่วงแรกหลังจากเว็บไซต์พัฒนาเสร็จสิ้นเป็นไปได้อย่างลื่นไหล ไม่เจอปัญหาการลงบทความไม่ทันอย่างแน่นอน ซึ่งควรมีมือเขียนบทความเฉพาะอย่างน้อย 1 คนคอยดูแลในส่วนนี้ หากคุณวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ คุณอาจมีบทความในคลังมากพอที่จะลงตลอด 1 เดือนได้เลย
3.2 สร้างตัวตนให้ Google รู้จักเราก่อน
แม้จะไม่มีเว็บไซต์ ไม่ได้หมายความว่า Google จะไม่รู้จักบริษัท หรือแบรนด์ของคุณ คุณสามารถเข้าไปสร้างตัวตนในสื่อต่าง ๆ หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่คุณจะใช้อย่างเป็นทางการได้ เช่น Facebook, Blockdit และ Pinterest เป็นต้น โดยให้คุณเคลื่อนไหวบัญชีเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง มีการกรอกรายละเอียดบัญชีให้ครบถ้วน และใช้ชื่อของบริษัทอย่างเป็นทางการด้วย เมื่อเว็บไซต์ของคุณพร้อม จึงค่อยนำเว็บไปใส่ในรายละเอียดของบัญชีนั้น ๆ เพิ่มเติมในภายหลัง
อาจดูเหมือนการสร้างตัวตนผ่านช่องทางอื่นเป็นเรื่องที่ง่าย แต่คุณต้องเลือกแพลตฟอร์มที่มีผู้คนรู้จัก และมีคนใช้งานในระดับสากล เพราะจะเพิ่มโอกาสให้ Google เข้าไปมองเห็นบริษัท หรือแบรนด์ของคุณมากขึ้นนั่นเอง โดยการดำเนินการตรงนี้กว่าจะเห็นผลจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป
3.3 เตรียมแผน B
นอกจากแผนที่ได้วางเอาไว้ในการทำ SEO คุณยังอาจต้องเตรียมแผนรับมือ กรณีที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เช่น เขียนบทความไปแล้ว 3 เดือน แต่กลับไม่มีบทความไหนขึ้นหน้า Google เลย ไล่หาไปจนถึง 100 อันดับก็ไม่มี คุณต้องเตรียมแผนการซัพพอร์ต เช่น การเปลี่ยนชุดของ Keyword โดยใช้เครื่องมือยอดนิยมอย่าง Ahrefs เป็นต้น หรือการใช้ต้นทุนบางส่วนไปกับการทำ SEM หรือการยิง ADS ผ่าน Meta เพื่อให้มีคนเห็นเว็บไซต์ เห็นชื่อบริษัทของคุณมากขึ้น จนในที่สุด Google จะเริ่มรู้จักคุณเอง
ทำไมเราต้องให้มีคนเห็นเรามากขึ้น จึงจะได้ผล นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อ Users ให้ความสนใจกับอะไรมากขึ้น มีจำนวน Users ที่จับต้องได้เข้าไปในเว็บไซต์ หรือสื่อต่าง ๆ จะทำให้ Google เริ่มตาม Users ไปดูว่าสิ่งที่ผู้คนสนใจคืออะไร ยิ่งมีคนสนใจมาก Google ก็จะยิ่งมองว่า “นี่แหละเว็บไซต์ที่คู่ควรติดอันดับการค้นหา”
4. เว็บไซต์พัฒนาเสร็จแล้ว เริ่มทำ SEO กันเลย
ขั้นตอนในการทำ SEO นั้นต้องบอกว่า “ทำไม่ยาก แต่วุ่นวายมาก ๆ” เนื่องจากมี Checklist นับไม่ถ้วนที่จะต้องคอยตรวจสอบ และถึงแม้จะทำได้ดีที่สุด คุณก็อาจจะพบว่าไม่ติดอันดับการค้นหาอีกด้วย โดยเทคนิคที่เราแนะนำ คือ การทำแบบ On-Page คือ การปรับแต่งในพื้นที่เว็บไซต์ของตนเองเพื่อรองรับการจัดอันดับ โดยเฉพาะประสิทธิภาพของบทความ โดยมีรายละเอียดดังนี้
4.1 บทความที่ตอบโจทย์ และสดใหม่
การเขียนบทความ SEO หากมีคนสนใจ สามารถศึกษาวิธีการเขียนได้อย่างไม่ยากเย็นแน่นอน แต่ถึงแบบนั้น คุณอาจพบความจริงที่น่าเจ็บปวดใจ คือ เขียนดีแค่ไหนกลับแพ้เว็บไซต์ที่เขียนบทความด้อยกว่าในหลาย ๆ ด้าน หากคุณเจอเหตุการณ์นี้ให้หันกลับมาดูว่า แท้จริงแล้วบทความของคุณนั้นตอบโจทย์มากกว่ามีแต่น้ำหรือไม่ และมั่นใจหรือไม่ว่าเนื้อหามีความสดใหม่มากพอ เมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่น ๆ
4.2 ทำ Backlinks ในเวลาที่เหมาะสม
การทำ Backlinks คือ การหาพื้นที่สำหรับนำเว็บไซต์ไปวางไว้ตามสื่อ หรือตามเว็บต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเว็บของเรา เช่น เพิ่มจำนวนการมองเห็นของ Users และมี Users วิ่งกลับมาที่เว็บของเราบ้าง เป็นต้น หลายคนจะใช้งบกับจุดนี้แทบจะทันทีที่มีการเขียนบทความออกไป แต่เรานั้นเลือกใช้วิธีที่ต่างกัน
การทำ SEO ของ Launch Platform จะให้ความสำคัญกับการทำ Backlinks น้อยมาก เนื่องจากมีเคสการศึกษาที่ชัดเจนว่าเว็บไซต์ที่แทบไม่มี Backlinks เลย สามารถติดหน้าแรกของ Google ได้ไม่ยาก เราจึงมองหาโอกาสในการทำ Backlinks ในช่วงที่เหมาะสมที่สุด และมองว่าเป็นวิธีเสริมในการทำ SEO ประมาณ 10% เท่านั้นเอง
4.3 ใช้งานเครื่องมือของ Google ให้คล่อง
เมื่อคุณอยากทำ SEO แบบ Organic คุณต้องฝึกใช้เครื่องมือพื้นฐานของ Google ให้คล่องมือที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือช่วยเก็บข้อมูลเชิงลึกของเว็บไซต์อย่าง GA4 และเครื่องมือที่แสดงประสิทธิภาพในการค้นหาอย่าง Google Search Console เป็นต้น หากคุณใช้งานได้เป็นอย่างดี คุณจะพบว่าคุณแทบจะไม่ต้องการเครื่องมืออื่น ๆ ในการทำ SEO เลย เพราะเครื่องมือเหล่านี้มีรูปแบบการรายงาน การวิเคราะห์หลายอย่างที่ซ่อนไว้ โดยเฉพาะเมนู Explore ใน GA4
5. ห้ามหยุดนิ่ง ห้ามหยุดพัฒนา
จากประสบการณ์ที่เราได้ทำ SEO มาอย่างต่อเนื่องพบว่า เมื่อไหร่ที่เราหยุดนิ่ง ทำอะไรแบบเดิมไปเรื่อย ๆ อันดับในหน้าของ Google จะค่อย ๆ ตกหล่น การพยายามพัฒนาอยู่ตลอดจึงสำคัญมาก สิ่งที่เราแนะนำให้คุณลองไปทำตาม ได้แก่
พัฒนาฟอร์มการเขียนบทความ SEO จากเว็บไซต์ที่มีอันดับสูงกว่าเรา
ติดตามพฤติกรรมของ Users โดยเฉพาะการกด CTA เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาต่อไป
ปรับแต่งประสิทธิภาพเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเสถียรที่สุด
คอยสอดส่องคู่แข่งว่ามีอะไรใหม่ และเราสามารถนำมาพัฒนาในแบบของเราได้ไหม
พยายามเพิ่มระบบต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการใช้งานของ Users อยู่เรื่อย ๆ
ไขแนวคิด Google มองอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
แม้จะมีการ Checklist การทำ SEO ที่คุณสามารถหาอ่านได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ แต่คุณต้องไม่ลืมว่าเป้าหมายของ Google นั้นกำลังพัฒนาประสบการณ์ของ Users ให้ดีอย่างต่อเนื่อง นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมอันดับของเว็บไซต์จึงมีการขึ้นลงอยู่ตลอด เพราะ Google กำลังมองหาเว็บไซต์ที่สามารถตอบคำถามให้กับ Users ได้ดีที่สุด และต้องดีขึ้นไปอีก หากคุณมีแนวทางในการทำ SEO โดยยึดความพึงพอใจของ Users เป็นอันดับแรกเชื่อเถอะว่า คุณจะติดหน้าแรกของ Google ได้ แม้จะทำไม่ครบ Checklist ก็ตาม
ทำ SEO ด้วยแนวคิดแบบเดียวกับ Google
สำหรับบริษัท Launch Platform เป็นบริษัทที่รับทำ SEO โดยยึดแนวคิดเดียวกับ Google คือ การวางรากฐานให้กับเว็บไซต์อย่างละเอียด มีความพร้อมในการรองรับการเข้ามาใช้งานของ Users ให้มีประสิทธิภาพ และส่วนของบทความ SEO ที่เราเน้นย้ำการตอบคำถาม มากกว่าการต้องมากำหนดว่าบทความจะยาวหรือไม่ วิธีของเราเป็นการทำงานแบบ On-Page ซึ่งจะพึ่งพาการทำ Backlinks น้อยมาก วิธีของเราจึงทำให้เว็บไซต์เติบโตแบบขั้นบันได ไม่หวือหวาแต่แข็งแรง และเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สรุป
ทำ SEO ให้ติดหน้าแรกบน Google ด้วยวิธีแบบ Organic เป็นการลงแรงทำที่ต้องใช้ความอดทน ความพยายาม และความเข้าใจ คุณต้องมีแผนงานตั้งแต่เริ่มต้น ไปจนถึงการตั้งเป้าหมายที่ต้องการ แต่เมื่อคุณไม่ได้มีงบประมาณเยอะ การปรับตัว และพัฒนาวิธีการทำ SEO จึงสำคัญมาก หากคุณอยากจะให้เราช่วยดูแล ช่วยให้คำปรึกษาการทำ SEO ก็สามารถติดต่อเราได้เลยตอนนี้ เรายินดีให้คำปรึกษาอย่างดีที่สุดแน่นอน
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:
ที่มาข้อมูลเสริม :