DEVELOP WEBSITE & MOBILE APPLICATION PLATFORMS FOR ALL

ยุคนี้ใคร ๆ ก็ต้องเคยสั่งอาหารผ่านแอปแน่นอน เพราะสะดวกกว่าการเดินทางไปซื้อเอง ที่บางครั้งอาจเสียค่ารถพอ ๆ กับค่าส่งอาหาร แถมยังต้องตากแดดตากลมไปอีก วันนี้เราจึงมีแอปสั่งอาหารที่คุณควรมีติดมือถือไว้ มาดูกันเลยว่าพวกเรา Launch Platform แนะนำแอปไหนกันบ้างครับ

กดเลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

แอปสั่งอาหารออนไลน์คืออะไร

แอปสำหรับสั่งอาหาร คือ แอปที่ถูกออกแบบมาสำหรับสั่งเมนูอาหารแบบออนไลน์ผ่านมือถือ โดยที่เราไม่ต้องเดินทางออกจากบ้าน โดยตั้งแต่กระบวนการค้นหาร้าน ค้นหาเมนูที่อยากทาน ไปจนถึงการจ่ายเงินทั้งแบบจ่ายเงินสด และสแกนจ่าย บางแอปสามารถใช้ส่วนลดได้ จนถึงการปักหมุดให้ Rider (พนักงานส่งอาหาร) มาส่งอาหารที่หน้าบ้านของเรา

ปัจจุบันมีแอปส่งอาหารหลายแอปที่นิยมใช้กัน และมีการแข่งขันกันสูงมาก เราจึงมักพบว่าแอปมือถือเหล่านี้มักมีการแจก Code ส่วนลดอยู่บ่อย ๆ อย่างไรก็ตามหลักเกณฑ์ที่เราต้องการให้คุณเลือกใช้แต่ละแอป คือ รูปแบบการใช้งานที่คุณถนัด และมาตรฐานการส่งอาหารเท่านั้น เนื่องจากหลายแอปมักจะใช้วิธีให้ส่วนลดสำหรับผู้ใช้งานใหม่ ก่อนที่ค่าส่งจะแพงขึ้นเรื่อย ๆ ในภายหลังนั่นเองครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 แอปเรียกรถในไทยแห่งปี 2024 ใช้งานง่าย และปลอดภัย

6 แอปสั่งอาหารที่คนใช้มากที่สุดปี 2025

การจัดอันดับในครั้งนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลตามความเข้าใจของเรา และประสบการณ์การใช้งานที่เคยผ่านมา โดยเราได้จัดอันดับออกมาทั้งหมด 6 อันดับ สำหรับแอปส่งอาหารที่คุณควรลองใช้ในปี 2025 หรือ 2568 ได้แก่

ขอบคุณวิดีโอจาก : ChefsDan-เชฟแดน

1. แอปสั่งอาหาร GrabFood

อันดับที่ 1 คือ แกร็บฟู้ดที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2017 และพัฒนาเรื่อยมา ถือเป็นเจ้าแรก ๆ ที่เข้ามาในธุรกิจแอปสายอาหาร ทำให้มีบริการครอบคลุมหลายจังหวัด และมีการให้บริการที่รวดเร็ว ด้วยอายุของแอปที่มาก ทำให้ได้รับความนิยมมากที่สุด อย่างไรก็ตามยังมีบางส่วนที่อาจยังต้องรอการอัปเดตเพื่อปรับปรุงต่อไป เช่น ระบบการสั่งอาหารหลายขั้นตอน แต่ส่วนหนึ่งก็เพื่อความปลอดภัย และความถูกต้องนั่นเอง

จุดเด่นของแอปสั่งอาหาร GrabFood

  • มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ครอบคลุมในหลายพื้นที่

  • หากเป็นผู้ใช้งานใหม่จะมีโปรโมชันให้เลือกใช้เยอะมาก

  • มีจำนวน Rider เยอะ ทำให้สั่งอาหารได้ง่าย

จุดด้อยของแอปสั่งอาหาร GrabFood

  • ขั้นตอนในการสั่งหลายขั้นตอน แม้จะทำให้การสั่งอาหารถูกต้องมากขึ้น แต่อาจต้องทำให้การสั่งอาหารทำได้อย่างสะดวกกว่านี้อีกหน่อย

  • เมื่อเวลาผ่านไป หากไม่ใช่ผู้ใช้ใหม่ มีโอกาสที่จะพบว่าค่าส่งแพงขึ้น  และค่าอาหารแพงขึ้นกว่าตอนแรกที่เข้าใช้งานแอป

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Grabfood สำหรับ iOS

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Grabfood สำหรับ Android

แอปสั่งอาหาร

2. แอปสั่งอาหาร Foodpanda

นับได้ว่า Foodpanda เป็นรองเพียง GrabFood เท่านั้น แม้ช่วงความนิยมจะลดน้อยลง แต่ยังติดท็อปอันดับต้น ๆ ในแอปสายนี้อยู่ 2012 ซึ่งถือว่าเก่าแก่ที่สุดในการจัดอันดับนี้ แต่ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทำให้เกิดดราม่าเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ความนิยมลดน้อยลงไป แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าแอปนี้ถือเป็นแอปที่ยังมีผู้ใช้งานเยอะมาก ๆ จากจุดเด่นที่แข็งแรงด้านความง่ายในการใช้งาน

จุดเด่นของแอปสั่งอาหาร Foodpanda

  • สามารถสั่ง Order ก่อนร้านเปิดได้

  • ขั้นตอนการสั่งง่ายมากเพียงไม่กี่ขั้นตอน

  • แอปโฟกัสเรื่องอาหารเท่านั้น ทำให้ประสิทธิภาพแอปสูงมาก และออกแบบมาเป็นอย่างดี

จุดด้อยของแอปสั่งอาหาร Foodpanda

  • ติดต่อ Rider ได้ค่อนข้างยากกว่าแอปอื่น

  • ด้านความช่วยเหลือ Customer Service ยังไม่ค่อยได้คุณภาพ

  • แม้แอปจะใช้งานง่าย แต่การใช้งานบนเว็บกลับง่ายกว่ามาก ทำให้อาจยุ่งยากหากต้องเข้าเว็บผ่านมือถือ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Foodpanda สำหรับ iOS

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Foodpanda สำหรับ Android

3. แอปสั่งอาหาร LINE MAN Wongnai

สำหรับแอปไลน์แมนเปิดตัวครั้งแรกเมือ่ปี 2016 ถือเป็นแอปที่หลายคนใช้งานกันเป็นปกติ ด้วยบริการที่หลากหลาย และหนึ่งในนั้นคือการสั่งอาหาร โดยเป็นการควบรวมธุรกิจระหว่าง LINE MAN และ Wongnai ในปี 2020 เพื่อผลักดันการบริการด้านการส่งอาหารเป็นพิเศษ และมีเป้าหมายในการมุ่งสู่การเป็นแอปอันดับที่ 1 ให้ได้

จุดเด่นของแอปสั่งอาหาร LINE MAN Wongnai

  • เวลาในการส่งอาหารมีความแม่นยำสูง

  • Rider ขึ้นชื่อเรื่องการบริการดีที่สุด

  • มักจัดโปรโมชันบ่อย ๆ แม้จะเป็นผู้ใช้เก่า

จุดด้อยของแอปสั่งอาหาร LINE MAN Wongnai

  • มีราคาค่อนข้างสูง

  • การสั่งอาหารถือว่ามีหลายขั้นตอนจนเกินไป

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE MAN Wongnai สำหรับ iOS

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE MAN Wongnai สำหรับ Android

แอปสั่งอาหารที่คนใช้เยอะที่สุด

4. แอปสั่งอาหาร Robinhood

Robinhood ถือเป็นแอปส่งอาหารที่ค่อนข้างใหม่ เปิดตัวในปี 2020 และเป็นเครือของ SCB โดยมีจุดประสงค์ คือ การเน้นให้การช่วยเหลือร้านอาหารโดยเฉพาะร้านเล็ก ๆ เป็นหลัก มากกว่าแบรนด์อาหารใหญ่ ๆ ทำให้ร้านอาหาร หรือแม้แต่ร้านรถเข็นทั่วไปหลายร้าน อาจหาได้แค่ในแอปนี้เท่านั้น แต่ด้วยความใหม่ทำให้ต้องพัฒนาระบบต่อไป แต่การที่เข้ามาติดอันดับที่ 4 ได้แม้เปิดตัวไปได้ไม่นาน ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ได้มีการประกาศการปิดตัวของแอป Robinhood โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 00.00 น. ทำให้ตั้งแต่เวลาที่กล่าวถึง ผู้ใช้งานจะไม่สามารถใช้แอปได้อีกต่อไป โดยฝ่ายเจ้าของร้านค้า และไรเดอร์จะยังสามารถใช้บริการ Robinhood Shop, Robinhood Rider และ Robinhood Driver เพื่อทำธุรกรรมภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 20.00 น.เท่านั้น

5. ShopeeFood

หากจะพูดถึงน้องใหม่ในวงการส่งอาหารถึงบ้านคุณคงต้องพูดถึง ShopeeFood ที่ได้เปิดตัวบริการนี้ในปี 2021 หลังจากให้บริการด้านการสั่งของออนไลน์มานานหลายปีจนติดลมบนไปแล้ว แต่ด้วยการเปิดตัวใหม่ทำให้การใช้งานในหลาย ๆ ด้านยังมีข้อผิดพลาดอยู่ แต่ด้วยชื่อชั้นของแอปทำให้มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก และมีการพัฒนาต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด จนในที่สุดก็มาติดอันดับในลิสต์นี้นั่นเอง

จุดเด่นของแอปสั่งอาหาร ShopeeFood

  • มีร้านอาหารให้เลือกเยอะมาก ทั้งร้านแบรนด์ใหญ่ และร้านเล็ก ๆ

  • มีโปรโมชันอยู่เสมอ เรียกได้ว่ามีให้ใช้แบบไม่ขาดตอนเลย

  • มีระบบเก็บ Coins ที่ใช้ร่วมกับโปรโมชันได้

  • การพัฒนารวดเร็วมากเป็นพิเศษ

จุดด้อยของแอปสั่งอาหาร ShopeeFood

  • เป็นปัญหาเดียวกันกับระบบอื่น ๆ คือ แอปค่อนข้างตอบสนองช้า

  • การสั่งในบางพื้นที่ค่อนข้างรอ Rider นาน

  • มีการอัปเดตบ่อยมาก เนื่องจากแอปจัดกิจกรรมอยู่เรื่อย ๆ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ShopeeFood สำหรับ iOS

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ShopeeFood สำหรับ Android

แอปสั่งอาหารอันไหนดี

6. แอปสั่งอาหาร HappyFresh

หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อนี้ แต่แอปของ HappyFresh เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว โดยมุ่งเน้นการสั่งอาหารจากร้านค้าประเภท Supermarket เป็นหลัก แต่ด้วยร้านค้าประเภทนี้มักมีแอปเป็นของตนเองอยู่แล้ว ทำให้แอป HappyFresh ประสบปัญหาหลายอย่าง เนื่องจากคู่แข่งที่แข็งแรง จนทำให้ต้องเปลี่ยนโมเดลของการให้บริการอยู่บ่อยครั้ง ในรอบนี้เราจึงต้องมาดูว่าแอปจะมีแนวทางในการพัฒนาสู้กับ 5 อันดับแรกได้หรือไม่

จุดเด่นของแอปสั่งอาหาร HappyFresh

  • มั่นใจเรื่องคุณภาพของอาหารเพราะมาจาก Supermarket

  • การบริการอยู่ในระดับที่เป็นทางการ ทำให้รู้สึกถึงคุณภาพมากเป็นพิเศษ

จุดด้อยของแอปสั่งอาหาร HappyFresh

  • ทางเลือกน้อย และอาจเป็นอาหารที่เราไม่คุ้นเหมือนแอปอื่น ๆ

  • ด้วยทิศทางของแอปที่ปรับเปลี่ยนมาเรื่อย ๆ ทำให้การใช้งานยังคงต้องพัฒนาอีกพอสมควร

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน HappyFresh สำหรับ Android

นอกจากนี้ยังมีแอปสั่งอาหาร Gojekด้วยการเน้นพื้นที่กรุงเทพมากเป็นพิเศษ ทำให้แอป Gojek เคยทะยานขึ้นมาติดอันดับอย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยการเปิดตัวที่มาแรงในปี 2019 พร้อมกับการแจกโปรโมชันเยอะมาก ๆ อย่างไรก็ตามในเวลาเพียง 2 ปีต่อมา ในปี 2021 แอป Gojek ได้ยุติการให้บริการภายในประเทศไทย และหันไปผลักดันการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านแทน ทำให้ตอนนี้ไม่สามารถโหลดมาใช้งานได้แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เนื่องจากการเปิดตัวที่ถือว่าไม่ธรรมดา และมีแนวโน้มว่าจะติดอันดับที่สูงกว่านี้ได้ในช่วงปี ๆ ต่อมานั่นเอง 

สั่งอาหาร

แอปสั่งอาหารอันไหนดี

การโหลดแอปสั่งอาหารมาใช้ เราแนะนำให้มีติดเครื่องไว้อย่างน้อย 2 แอป เนื่องจากหากอีกแอปช้า มีปัญหา สั่งแล้วรอนาน ก็ให้เปลี่ยนไปใช้อีกแอปหนึ่ง โดยแอปที่เราแนะนำ คือ GrabFood และ Robinhood เนื่องจากทางฝั่งของ GrabFood ถือว่าเสถียรที่สุด และแน่นอนว่าคงจะแปลก หากไม่มีแอปสั่งอาหารอันดับที่ 1 ติดมือถือไว้ ส่วน Robinhood ที่เราแนะนำเป็นเพราะสามารถหาร้านเล็ก ๆ ได้ดีกว่าแอปอื่น เพราะเราน่าจะรู้กันดีว่ายังมีร้านลับอีกหลายร้าน ที่อาจไม่ได้ดังระดับประเทศ แต่รสชาติอาหารถึงใจสุด ๆ ครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เปิดโพย 10 ฟีเจอร์ที่แอปธุรกิจร้านอาหารยุคนี้ขาดไม่ได้

สรุป

แม้ว่าจะมีแอปอื่น ๆ ที่ให้บริการคล้ายกันมาก ๆ ในปัจจุบัน เช่น แอปของ 7-ELEVEN แต่สำหรับแอปเซเว่นนั้นมีการขนส่งสินค้าที่หลากหลายประเภท และจำกัดเฉพาะของทางร้านเท่านั้น ทำให้เราไม่ได้นำมาจัดอันดับ มาจนถึงตอนนี้หากคุณเบื่อที่จะต้องใช้แอปของคนอื่น อยากลองพัฒนาแอปเพื่อธุรกิจของคุณ สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการปรึกษาเรา Launch Platform นะครับ

เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:

ที่มาข้อมูล : 1, 2


01 Aug 2024
Tags :



Writer
LAUNCHPLATFORM
Content Writer

บทความแนะนำที่เกี่ยวกับบริการ