สำหรับคนที่ฝันอยากจะมีแอปเป็นของตนเอง แต่ไม่รู้ว่าจะทำแอปอะไรดี บทความนี้มีมาแนะนำให้ พอจะเป็นไอเดียเริ่มต้น ให้คุณนำไปต่อยอด และปรับเปลี่ยนในแบบของคุณเองได้ จะมีแนวทางการทำแอปแบบไหนบ้างที่เราอยากจะแนะนำมาดูกันเลยดีกว่า
เริ่มต้นทำแอปมือถือยากไหม
ต้องยอมรับว่าการทำแอปมือถือนั้นถือเป็นเรื่องเฉพาะทาง เพราะต้องใช้โปรแกรมที่เกี่ยวข้องให้เป็น รวมถึงควรต้องมีทีมในการช่วยจัดการระหว่างการพัฒนา ไปจนถึงช่วงทดสอบระบบการทำงาน และนำขึ้น Store ให้ดาวน์โหลดด้วย
ด้วยเหตุผลนี้ การทำแอปมือถือจึงไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะหากเรียนรู้ไปด้วย ลงมือทำไปด้วยจะทำให้ใช้เวลานาน หากไม่รีบร้อนที่จะใช้งานก็สามารถศึกษาทำได้เอง แต่ถ้าหากต้องการนำไปใช้ เราแนะนำให้จ้างผู้เชี่ยวชาญจะเหมาะสมกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : 3 ธุรกิจที่ควรมีแอปพลิเคชัน และต้นทุนในการพัฒนา
สนใจบริการ : รับทำแอปมือถือ ออกแบบผ่าน UX/UI Designer พร้อมให้คำแนะนำ
5 ไอเดีย ทำแอปอะไรดี ใช้ในชีวิตประจำวัน และในบริษัท
หากคุณสนใจจะลองทำแอปมือถือ เราแนะนำให้เริ่มต้นจากไอเดียการทำแอปที่ไม่ได้เป็นวงกว้างจนเกินไป โดยมีเป้าหมายเอาไว้ใช้ในบริษัท หรือใช้สำหรับในกลุ่มคนบางกลุ่ม เพื่อให้ง่ายต่อการพัฒนา การออกแบบ และการดูแล
ขอบคุณวิดีโอจาก : GORRADA
1. ทำแอปสะสมแต้ม Goal ในแต่ละปี
ในทุก ๆ ปี แต่ละคนต้องมี Goal หรือสิ่งที่อยากทำให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่เชื่อว่ามักพบเจอกับปัญหา และแรงกระตุ้นที่ไม่มากพอจนทำให้เป้าหมายไม่สำเร็จ คุณลองเปลี่ยนให้ Goal ของคุณเป็นระบบสะสมแต้มแทน เพื่อรับรางวัลในช่วงสิ้นปีก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จูงใจไม่น้อยเลย
คุณอาจจำแนกรายการเป้าหมายยิบย่อยออกมาก่อน ไม่ใช่แค่มี Goal อย่างเดียว และแต่ละรายการหากคุณทำสำเร็จจะได้แต้มสะสมเก็บเอาไว้ และกำหนดของรางวัลที่คุณจะซื้อให้ตนเอง โดยมูลค่าจะตามจำนวนแต้มที่คุณมีตอนสิ้นปี เป็นต้น และถ้าหากทำ Goal สำเร็จจะได้รางวัลใหญ่ไปด้วยนั่นเอง
Feature แนะนำสำหรับแอปสะสมแต้ม Goal ในแต่ละปี
ระบบตั้งค่าแจ้งเตือนของรายการเมื่อจะหมดระยะเวลาในการทำ
สามารถทำระบบให้คูณคะแนนแบบจำกัดเวลา สำหรับดึงดูดให้ตนเองทำบางรายการเป็นพิเศษในช่วงนั้น
สามารถเพิ่มรายการที่ทำแล้วจะเกิดการหักคะแนน เช่น นำเงินเก็บไปใช้ลบคะแนน 10 คะแนน เป็นต้น
2. ทำแอปรวมข้อมูลที่คุณต้องรู้จาก Specialist
เมื่อคุณมีประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้น จนรู้สึกว่าตนเองไม่ใช่มือใหม่อีกต่อไป ทำไมคุณไม่ลองทำแอปที่รวบรวมข้อมูลสำหรับนักอ่านที่สนใจในด้านนี้ดูบ้างละ เช่น คุณทำงานสาย Marketing มีความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลสูง สามารถที่จะทำแอปสำหรับลงบทความให้ความรู้ จัดหมวดหมู่เนื้อหา เพื่อให้คนสามารถเข้ามาอ่าน และแสดงความเห็นได้ด้วย
ในอนาคตเมื่อมีคนเข้ามาใช้งานมากขึ้น อาจขยายออกไปให้มีเรื่องอื่น ๆ ที่คนในสายงานนี้ต้องการอ่านได้ด้วย และถ้ามียอดผู้ใช้งานเยอะ ในอนาคตสามารถทำพื้นที่ติดแบนเนอร์รับโฆษณา ถือเป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยหารายได้อีกด้วย
Feature แนะนำสำหรับแอปรวมข้อมูลที่คุณต้องรู้จาก Specialist
ระบบแสดงความคิดเห็นในบทความ
สามารถลง Content แบบวิดีโอได้
ระบบบันทึกบทความสำหรับอ่านในภายหลัง
กดหัวใจ หรือถูกใจให้คุณรู้ว่าบทความไหนดี ควรนำไปปักหมุดไว้
3. ทำแอปบันทึกงาน Note งานสำคัญสำหรับบริษัท
อย่าใช้กระดาษให้โลกร้อน เมื่อเราสามารถบันทึกผ่านแอปมือถือได้ อาจมีหลายแอปที่สามารถบันทึกงานได้ และใช้งานได้ฟรี แต่อาจมีบางอย่างไม่ตอบโจทย์บริษัทของคุณ พอไปเจอระบบที่อยากได้ ก็ถูกบังคับให้จ่ายรายเดือนเพื่อเข้าใช้งานอีก ลงทุนสักหน่อยเพื่อให้ได้แอปบันทึกงานสำหรับภายในบริษัทถือว่าน่าสนใจขึ้นมาเลย
ด้วยการลิสต์สิ่งที่บริษัทของคุณต้องการขึ้นมาให้ครบก่อน จากนั้นค่อยนำไปให้ทีมพัฒนาแอปทำงานต่อไป นอกจากจะทำแอปแบบนี้สำหรับบริษัทแล้ว ยังสามารถทำออกมาในรูปแบบส่วนตัวเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย
Feature แนะนำสำหรับแอปบันทึกงาน Note งานสำคัญสำหรับบริษัท
ระบบระบุสถานะงานตั้งแต่เริ่มทำไปจนงานเสร็จ
สามารถนับจำนวนชิ้นงานที่ทำเสร็จในแต่ละเดือนได้
มีระบบแสดงความคิดเห็นต่องานแต่ละ Note โดยจะมีแค่เจ้าของงานที่เห็น
ระบบหาคนช่วยงานด่วน กรณีที่ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินทำงานไม่ทัน ใครที่มาช่วยอาจได้รับแต้มพิเศษ ใครมีแต้มเยอะบริษัทจะแจกรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นต้น
4. ทำแอป Community ตั้งกระทู้สนทนาที่สนใจในเรื่องเดียวกัน
เคยไหมเมื่อเราไปตามเว็บกระทู้ต่าง ๆ แล้วมีเรื่องราวให้อ่านเยอะแยะมากมาย มีหลายหมวดหมู่มาก ๆ จนเราหาไม่เจอ พอไปเจอหมวดหมู่ที่เราสนใจ ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้อ่านเท่าไหร่เลย ทำไมคุณไม่ลองพยายามที่จะรวมคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันมาพูดคุยในที่เดียวกัน เพื่อแก้ปัญหากระทู้ตั้งแล้วไม่มีคนสนใจ ไม่มีใครเข้ามาตอบ
คุณสามารถสร้าง Community โดยชูระบบการตั้งกระทู้ Q&A ขึ้นมา แต่เจาะจงว่าแอปของคุณจะคุยแค่เรื่องนี้เท่านั้น เช่น เรื่องฟุตบอล หรือเรื่องขนมหวาน เป็นต้น โดยจะไม่มีกระทู้นอกเรื่องอื่น ๆ อีกเลย และคนที่จะใช้แอปจะมีจำนวนไม่มากมาย แต่มั่นใจได้ว่าเป็นคนที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กันแน่นอน
Feature แนะนำสำหรับแอป Community ตั้งกระทู้สนทนาที่สนใจในเรื่องเดียวกัน
มอบตำแหน่งบนแอปสำหรับ User ที่เข้ามาตอบปัญหาได้บ่อย และถูกต้อง
ระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้อง
ระบบขอคำตอบด่วนสำหรับกระทู้ที่เดือดร้อน แบะต้องการคำตอบให้เร็วที่สุดด้วยการดันกระทู้ขึ้นข้างบน หรือส่ง Notification ให้กับผู้ใช้งานแอปคนอื่น ๆ
5. ทำแอปรับส่งอาหารสำหรับคนกลุ่มเล็ก
เนื่องจากเรื่องอาหารเป็นเรื่องของทุกคน และมีความสำคัญมาก แต่การทำแอปสำหรับรับส่งอาหารที่ใช้ทั่วไป อาจลำบากจากการที่จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่แข็งแรงอย่าง LINE MAN หรือ Food Panda การหันมาทำแอปรับส่งอาหารเฉพาะกลุ่มจะง่ายกว่า เช่น ทำขึ้นมาสำหรับที่ทำงาน หรือพื้นที่คอนโด ที่ละแวกใกล้เคียงมีร้านอาหารเป็นจำนวนมาก สำหรับคนที่ขี้เกียจลงไปส่งข้าวกลางแดดร้อน ๆ เป็นต้น
ขั้นตอนของการใช้งาน อาจเริ่มจากการให้สมัครง่าย ๆ เข้ามา บอกชื่อ และชั้นของที่ทำงาน จากนั้นเลือกร้านอาหารจากร้านใกล้ ๆ ที่ลิสต์ขึ้นมาเอง พร้อมกับเมนู สามารถโอนจ่ายได้ หรือเก็บเงินปลายทางเมื่อนำข้าวไปส่งถึงมือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มสีสันเล็ก ๆ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้รีวิวร้านอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในรายการได้ก็ถือว่าน่าสนใจ
Feature แนะนำสำหรับแอปรับส่งอาหารสำหรับคนกลุ่มเล็ก
ระบบ QR Code ให้ร้านค้าอาหารลงทะเบียนแบบฟอร์มออนไน์เข้าแอป
พื้นที่รีวิวร้านอาหาร หรือเมนูอาหาร
ระบบ Live Chat เผื่อเปลี่ยนแปลงเมนู
ระบบตั้งค่าเมนูโปรด เพื่อความรวดเร็วในการสั่ง
สามารถสั่งเมนูล่วงหน้าเอาไว้ก่อนได้
ต้นทุนในการทำแอปมือถือ
โดยทั่วไปแล้วการทำแอปมือถือจะใช้ต้นทุนค่อนข้างสูงจะเริ่มต้นที่ประมาณ 300,000 บาทขึ้นไป โดยเรตราคาจะขึ้นอยู่กับระบบที่คุณต้องการ ดังนั้นค่าใช้จ่ายอาจถูก หรือแพงขึ้นก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อดูแลพัฒนาแอปต่อเนื่องด้วย ขึ้นอยู่กับสัญญาที่คุณเลือกทำไว้กับบริษัทที่รับทำแอปมือถือนั้น ๆ
หากคุณอยากมีแอปเป็นของตนเอง เราไม่แนะนำให้ออกแบบมาใช้เป็นวงกว้าง เพราะค่าใช้จ่ายจะสูงเกินไป ยิ่งถ้าต้องการทำขึ้นมาเพื่อหารายได้ แอปที่เราแนะนำในบทความนี้อาจไม่ค่อยตอบโจทย์ นอกจากคุณจะออกแบบแอปขนาดใหญ่สำหรับทุกคน ซึ่งต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงมาก ๆ ด้วยเช่นกัน
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:
ที่มาข้อมูล: 1, 2
