รีวิว Quillbot AI ที่จะช่วยให้การเขียนภาษาอังกฤษง่ายขึ้น
ปัจจุบัน AI ได้กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญ และได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในแง่ของการทำงาน และในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในการสร้างคอนเทนต์ หรือการเขียนบทความต่าง ๆ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ เว็บเช็ก Grammar อย่างเจ้า Quillbot ที่จะช่วยให้การเขียนภาษาอังกฤษของคุณง่ายขึ้น วันนี้พวกเรา Launch Platform จะมานำเสนอ AI ตัวนี้ให้รู้จักกันครับ
กดเลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
Quillbot AI คืออะไร
Quillbot โปรแกรมที่ทำหน้าที่ช่วยตรวจสอบรูปประโยคภาษาอังกฤษ โดยใช้ AI ในการทำงาน โดย Quillbot จะช่วยตรวจสอบทั้ง Paraphrase และ Grammar มักรู้จักกันในชื่อ "Quillbot Grammar Check" เพื่อให้คำศัพท์ หรือรูปประโยคมีความสละสลวยยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยแก้ไขประโยคต่าง ๆ ให้มีความถูกต้อง และมีความธรรมชาติมากที่สุด
นอกจาก Quillbot จะช่วยแก้ และปรับรูปประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง และมีความธรรมชาติแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของโปรแกรมนี้คือการที่โปรแกรมสามารถช่วยสรุปใจความสำคัญของประโยคให้สั้นกระชับ ปรับตามอารมณ์ของรูปประโยคได้ แถมยังช่วยเขียนอ้างอิงให้ตัวบทความได้ด้วยครับ
บมความที่เกี่ยวข้อง : 10 เครื่องมือ AI ฟรี ที่ต้องใช้ในธุรกิจของคุณล่าสุด 2024
ขอบคุณวิดีโอจาก : Amm Jaam
ฟีเจอร์ของ Quillbot ดีไหม มีอะไรบ้าง
สำหรับ Quillbot มีฟีเจอร์มากมายให้ได้เลือกใช้ โดยสามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบฟรี หรือสมัครแบบพรีเมียม (เสียเงิน) ซึ่งแต่ละฟีเจอร์ก็จะแตกต่างกันออกไปตามความต้องการใช้งานของผู้ใช้ โดย Quillbot จะมี 6 ฟีเจอร์เด็ดให้เลือกใช้
1. ช่วยเรียบเรียงประโยค (Paraphraser)
หนึ่งฟีเจอร์หลักของ Quillbot ที่สามารถใช้ได้ฟรี ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สามารถให้ AI ช่วยเรียบเรียงประโยคใหม่ ให้มีความถูกต้อง และมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยสามารถปรับได้ว่าจะใช้ Synonyms มากน้อยแค่ไหน ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถเลือกรูปแบบ หรืออารมณ์ของประโยคในแบบที่เราต้องการได้ เช่น
มาตรฐาน (Standard)
ลื่นไหล (Fluency)
ทางการ (Formal)
เรียบง่าย (Simple)
สร้างสรรค์ (Creative)
เติมให้ยาวขึ้น (Expand)
ทำให้สั้นลง (Shorten)
วิชาการ (Academic)
สำหรับ Paraphraser ในโหมดฟรี เราสามารถปรับได้เพียง 3 ระดับ นอกจากนั้นจะใช้ในการตรวจสอบคำได้เพียงแค่ 125 คำเท่านั้น แต่ถ้าเราสมัครแบบพรีเมียมก็จะสามารถใช้ตรวจสอบคำได้แบบไม่จำกัดเลย นอกจากนั้นในโหมดฟรีเราจะสามารถใช้ได้เพียงแค่ 2 โหมด จากใน 8 โหมดเท่านั้น ก็คือ Standard และ Fluency
2. ตรวจสอบไวยากรณ์ (Grammar Checker)
Grammar Checker เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ หรือตัวสะกดต่าง ๆ ของประโยคภาษาอังกฤษที่เราเขียน โดยจะช่วยปรับแก้สิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง และช่วยแก้คำผิดได้อีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้ Quillbot สามารถทำได้ค่อนข้างแม่นยำ
สำหรับ Grammar Checker เราสามารถนำ Copy & Paste คำที่ต้องการได้แบบไม่จำกัด ไม่ว่าจะใช้แบบฟรี หรือพรีเมียม ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำหน้าที่คล้ายกับฟีเจอร์ Proofing Tool ของ Microsoft Office โดยจะตรวจสอบว่ามีจุดไหนที่ผิดหลักไวยากรณ์ และจะให้คำแนะนำกับเราได้ว่าจุดที่ผิดนี้ ควรจะถูกแก้เป็นอะไร
3. ตรวจสอบการคัดลอกผลงาน (Plagiarism Checker)
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้ Quillbot ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน คือการที่ตัวโปรแกรมสามารถตรวจสอบการคัดลอกผลงานจากประโยคของเราได้ โดยจะสแกนข้อความจากเอกสาร เพื่อตรวจสอบว่าเอกสารชิ้นนี้มีการคัดลอกมาจากแหล่งข้อมูลอื่นหรือไม่
โดยฟีเจอร์นี้เอง QuillBot ได้นำ API Integration ซึ่งเป็นบริการของแพลตฟอร์มที่ชื่อ Copy Leaks มาใช้ โดยฟีเจอร์นี้จะสามารถใช้เพื่อตรวจสอบการคัดลอกผลงานที่เป็นภาษาอังกฤษ ได้ไม่เกิน 50 หน้าต่อเดือน สำหรับคนที่สมัครพรีเมียม ฟีเจอร์นี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ทำงานด้านวิชาการ เขียนรายงานวิจัย รวมถึงครูอาจารย์ และนักเรียนนักศึกษา ซึ่งฟีเจอร์นี้จะสามารถใช้ได้สำหรับคนที่สมัครพรีเมียมเท่านั้นครับ
4. สร้างบรรณานุกรม (Citation generator)
สำหรับใครที่เคยใช้ฟังก์ชัน Insert Citation บน MS Word จะต้องคุ้นเคยกับฟีเจอร์นี้เป็นอย่างดี โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้เราสามารถบริหาร และจัดการแหล่งข้อมูลอ้างอิงได้ในจุดเดียว นอกจากนั้นยังสามารถแทรกใส่แหล่งอ้างอิงในตัวเอกสารได้เลย ฟีเจอร์สำหรับสร้างบรรณานุกรมยังสามารถเลือกที่มาได้ 3 ประเภท คือ หนังสือ เว็บไซต์ และวารสาร โดยเมื่อกรอกข้อมูล และที่มาเสร็จแล้ว เรายังสามารถเลือกประเภทของการอ้างอิงได้ถึง 3 แบบ คือ APA MLA และ Chicago นั่นเอง
5. ใช้สำหรับสรุป และจับใจความ (Summarizer)
ฟีเจอร์นี้จะช่วยวิเคราะห์ข้อความทั้งหมดที่เราส่งลงไป และสรุปใจความสำคัญของบทความ หรือข่าวของเราสั้น กระชับ ตรงประเด็น และสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถปรับระดับความสั้น ยาวของรูปประโยคได้ถึง 4 ระดับ ซึ่งไม่ว่ารูปประโยคจะยาวขนาดไหนก็ตาม ตัวฟีเจอร์ก็นี้จะพยายามสรุปให้สั้นในระดับที่พอจะอ่าน โดยยังสามารถจับใจความสำคัญของข้อความทั้งหมดได้
สำหรับฟีเจอร์นี้คนที่ใช้งานโหมดฟรีจะสามารถใช้ได้เพียงแค่ 1,200 คำต่อเดือนเท่านั้น และจะถูกจำกัดการสรุปใจความบางอย่าง แต่สำหรับคนที่สมัครพรีเมียมจะสามารถใช้ได้มากถึง 6,000 คำ และสามารถเข้าถึงในส่วนที่ Quillbot กำหนดไว้นั่นเองครับ
6. ทำได้ทุกอย่างในที่เดียว (Co-Writer)
Co-Writer ถือเป็นฟีเจอร์หลักที่รวบรวมฟีเจอร์ทุกอย่างไว้ในงานเดียว หรือก็คือ Online Word Processor บนแพลตฟอร์มของ QuillBot ที่จะให้เราพิมพ์เอกสารบนโปรแกรม แล้วสามารถใช้เครื่องมือของ QuillBot ทุกอย่างได้พร้อมกันในที่เดียว ตั้งแต่การเขียน, ใช้เช็ค Grammar, Paraphrase และเพื่อเช็ค Plagiarism นั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ เช่น การค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ หรือการจดโน้ตเพื่อบันทึกไอเดีย รวมถึง Citations ซึ่งสามารถเลือก Style ที่เป็นมาตรฐานของงานเขียนได้หลากหลาย และสามารถอ้างอิงได้ทั้งเว็บไซต์ หนังสือ และบทความงานวิจัยได้อีกด้วย
Quillbot เหมาะสำหรับใคร
Quillbot ถือเป็นโปรแกรม AI ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย และครอบคลุมในการตรวจสอบความถูกต้องของบทความ หรือรูปประโยคของภาษาอังกฤษได้ ทำให้สามารถตอบโจทย์ต่อผู้ที่มักใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานเป็นหลัก
บุคคลทั่วไป : Quillbot สามารถใช้งานได้ตั้งแต่สำหรับบุคคลทั่วไป ที่มักใช้งานภาษาอังกฤษในการทำงานเป็นหลัก โดยเฉพาะสำหรับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเขียนบทความเป็นหลัก
นักเรียน นักศึกษา หรือนักวิชาการ : Quillbot เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือนักวิชาการ เพราะด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยตรวจสอบคำผิด รวมไปถึงฟีเจอร์ที่ใช้ในการทำอ้างอิง ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้เราสามารถนำมาใช้ในการเขียนงานภาษาอังกฤษ, Presentation หรือจนถึงงานวิจัยก็ได้เช่นกัน
อาจารย์ : นอกจากนั้น Quillbot ยังสามารถเป็นตัวช่วยสำหรับใช้เขียนภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปใช้งานในการสอน หรือทำข้อสอบได้นั่นเอง
นักธุรกิจ นักการตลาด หรืออาชีพอื่น : Quillbot ยังสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจ หรืออาชีพอื่น ๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร, ติดต่อสื่อสารกับลูกค้า หรือคนในทีม โดยจะช่วยตรวจสอบคำผิดต่าง ๆ รวมไปถึงรูปแบบประโยคใหม่ได้
อย่างไรก็ตาม แม้ Quillbot จะมีฟีเจอร์ที่หลากหลาย และครอบคลุมต่อการใช้งานทั่วไป แต่ในบางฟีเจอร์ก็ยังคงต้องสมัครแบบพรีเมียม เพื่อให้สามารถใช้งานตัวฟีเจอร์นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนั้นในบางฟีเจอร์ยังไม่แม่นยำมากพอ ทำให้เนื้อหาอาจผิดเพี้ยนไปจากความหมายเดิมได้ ซึ่งขณะใช้งานเราควรจะตรวจสอบอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าประโยคที่เราต้องการสื่อนั้นถูกต้อง
Quillbot ราคาเท่าไหร่
สำหรับ Quillbot จะมีให้เลือกใช้งานในรูปแบบฟรี และพรีเมียม ซึ่งการตัดสินใจใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ก็จะขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งาน มีการใช้งาน Quillbot มาก หรือน้อยขนาดไหน โดย Quillbot แบบพรีเมียมจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
Monthly : สำหรับใช้งานรายเดือน เริ่มต้นที่ราคา $9.90 หรือประมาณ 350 บาท/ต่อเดือน
Semi Annual : สำหรับใช้งานราย 6 เดือน เริ่มต้นที่ราคา $39.63 หรือประมาณ 1,400 บาท/ต่อ 6 เดือน
Annual : สำหรับใช้งานรายปี เริ่มต้นที่ราคา $50.95 หรือประมาณ 1,800 บาท/ต่อปี
Quillbot โปรแกรมแห่งอนาคต ที่ช่วยตอบโจทย์การทำงานของทุกคน
Quillbot ถือเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมยอดนิยมที่หลาย ๆ คนมักนำมาใช้ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบ Grammar, ตรวจสอบ Paraphase, สรุปเนื้อหา, รวมไปถึงงานวิชาการ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้งานได้ตามที่ต้องการ ถือเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับใครที่ใช้งานภาษาอังกฤษทำงาน
สรุป
ปัจจุบัน Quillbot เป็น AI แถวหน้าของวงการภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ต้องการความถูกต้องของเนื้อหาแบบมืออาชีพ อย่างไรก็ตามด้วยตลาดของ AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เราคงต้องมาดูกันว่าจะมีคู่แข่งที่สูสีเกิดขึ้นมาหรือไม่ในอนาคต
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้: