ทำไมต้องทำเว็บไซต์คลินิก แม้จะมี Social Media อยู่แล้ว
คลินิกของคุณขายโปรโมชัน ขายแพ็กเกจต่าง ๆ ได้ดีหรือไม่ และมีเว็บไซต์แล้วหรือยัง หลายคนอาจยังสงสัยว่าทุกวันนี้ต้องมีเว็บไซต์จริงหรือ นอกจากความน่าเชื่อถือที่จะได้จากการทำเว็บไซต์คลินิกแล้ว ยังมีอะไรอีกบ้าง หากคุณตัดสินใจที่จะพัฒนาเว็บไซต์ให้คลินิกของคุณในตอนนี้ Launch Platform จะอธิบายให้คุณฟังเอง
กดเลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
ทำไมธุรกิจคลินิกควรทำเว็บไซต์
ในเมื่อมี Facebook Page ไปแล้ว สาเหตุอะไรที่ทำให้คลินิกจำเป็นต้องมีเว็บไซต์ความจริงแล้วมีมากกว่าที่คิดแน่นอน ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างออนไลน์ หนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในการรักษา และขยายฐานลูกค้า นอกจากสื่อ Social Media แล้วยังมีเว็บไซต์ และข้อดีของเว็บไซต์ที่มีมากกว่า Social Media หลายอย่าง เราจะอธิบายไปทีละข้อ
1. Facebook ทำ SEO ได้ไม่แกร่งเท่าเว็บไซต์
ช่องทางหลักในการขายโปรโมชัน หรือบริการต่าง ๆ ของทางคลินิกมักหนีไม่พ้น Facebook และ Line อย่างแน่นอน แต่ถ้าพูดถึงการทำ SEO (การปรับแต่งเนื้อหาให้ปรากฏบน Google) เราต้องบอกตามตรงว่า Facebook สามารถทำ SEO ได้อยู่แล้ว แต่ความแข็งแกร่งในการทำ SEO ไม่สามารถเทียบกับเว็บไซต์ได้เลย ยกตัวอย่างรูปภาพด้านล่างนี้ เพียงแค่ค้นหาคำว่า "โปรโมชันคลินิกจัดฟัน" จะเห็นได้ชัดเลยว่าไม่มี Facebook ถูกนำมาจัดอันดับเลยแม้แต่อันดับเดียว
แล้วทำไม Facebook ถึงทำ SEO แพ้เว็บไซต์ คำตอบคือ การปรับแต่งที่ไม่ละเอียดมากพอกับ SEO ยังมีหลายอย่างที่จำเป็นต้องปรับแต่งเพื่อให้ติด Google แต่ทาง Facebook ไม่รองรับ และที่สำคัญไปมากว่านั้น พื้นฐานโดยปกติของ Facebook เองเป็นสื่อกลางทางสังคม ที่รวบรวมเนื้อหาเป็นจำนวนมากไว้ ต่างจากเว็บไซต์คลินิกที่ถูกสร้างมาเพื่อคลินิกโดยตรง ทำให้เนื้อหา และการปรับแต่งต่าง ๆ จะทำได้ดี และมีความเฉพาะทางกว่ามากหลายเท่านั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : หน้าเว็บขายของออนไลน์ ทำยากไหม ต้องมีอะไรบ้าง
2. เว็บไซต์เก็บข้อมูลการตลาดได้มากกว่า Social Media
ปัญหาที่มักพบกันเมื่อทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์โดยเฉพาะการยิง ADS คือ ข้อมูลที่ได้กลับมาไม่ละเอียดมากพอ ดูกลุ่มของลูกค้าที่ติดตามเราแล้วได้ข้อมูลพื้นฐานมากเกินไป ไม่ค่อยละเอียด ต่างจากเว็บไซต์ที่เจาะลึกได้หลายอย่างกว่ามาก เพราะเว็บไซต์สามารถติดเครื่องมือที่เรียกว่า “Google Analytics 4”
ซึ่งเครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือของทาง Google สำหรับดูข้อมูลเชิงลึกของคนที่เข้ามายังเว็บไซต์ของคลินิก โดยเราจะยกตัวอย่างข้อมูลที่ดูได้ เช่น ผู้ใช้งานมาจากประเทศไหน, จังหวัดไหน, เพศอะไร, เข้าผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์, มีความสนใจในเรื่องไหน, พฤติกรรมเป็นแบบไหน, ช่วงเวลาที่เข้ามายังเว็บไซต์, หน้าเว็บที่อ่านเยอะที่สุด, เข้ามาแล้วกดปุ่มไหนในเว็บไซต์บ้าง และมีกี่คนที่กลับมาเข้าเว็บไซต์เป็นครั้งที่ 2 เป็นต้น และเราขอย้ำว่านี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งที่คุณสามารถดูได้ หากคุณมีเว็บไซต์สำหรับคลินิกของคุณ
3. เว็บไซต์เป็นการตลาดเชิงรับมีประสิทธิภาพสูงกว่าเชิงรุก
เมื่อคลินิกทำการตลาดหลักบน Social Media วิธีที่ได้ผล คือ การยิง ADS ออกไปนำเสนอโปรโมชันให้คนอื่น ๆ ได้เห็น โดยที่คนเหล่านั้นไม่ได้เช้ามาค้นหาบริการโดยตรง วิธีนี้เราเรียกว่า “การตลาดเชิงรุก” ซึ่งมีความเสี่ยงมาก เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าการนำบริการไปเสนอ “เผื่อให้คนสนใจ” จะมีกี่คนที่สนใจจริงกลับมาหาคลินิกของคุณ
ในทางกลับกันเมื่อลูกค้ามีความต้องการใช้บริการ และไปค้นหาบริการใน Google จากนั้นเจอเว็บไซต์ของคุณ และลูกค้ากดเข้ามา สิ่งนี้เรียกว่า “การตลาดเชิงรับ” เพราะลูกค้ามีความสนใจซื้อแล้ว เพียงแต่ต้องการหาข้อมูลว่าจะซื้อบริการคลินิกจากใครดีเท่านั้นเอง ทีนี้คุณลองถามตัวเองดูว่าการตลาดแบบไหนดีต่อคลินิกของคุณมากกว่ากัน?
4. เว็บไซต์สามารถปรับแต่งได้แทบจะไร้ขีดจำกัด
ปัญหาหลายอย่างที่เจอในการใช้สื่อ Social Media คือ อยากจะปรับแต่งข้อมูลบางอย่าง ใส่ข้อมูลบางอย่าง แต่เครื่องมือหลังบ้านไม่มี ไม่สามารถทำได้ หรือทำใส่โพสต์เอาไว้ก็ไม่ค่อยชัดเจน พอโพสต์เนื้อหาใหม่ ๆ อะไรที่อยากให้เน้นไว้ก็ถูกดันลงไปจากฟีด ถึงปักหมุดแล้วก็ยังไม่ชัดเจน แต่เว็บไซต์ตรงกันข้าม เพราะสามารถจัดการเนื้อหาเฉพาะจุดได้ สามารถสร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับบางเนื้อหาได้เลย และคุณจะเอาสิ่งนี้ไว้ตรงไหนก็ได้ตามใจชอบ คุณอยากปักหมุดบทความให้ความรู้ไม่ให้หายไปไหนก็ทำได้ แยกหน้าเพจออกมาเฉพาะข้อมูลโปรโมชันเท่านั้นก็ทำได้ แถมยังปักหมุดโปรโมชันได้อีก และปรับแต่งได้ตลอดด้วย
อย่างไรก็ตามการใช้งานเว็บไซต์จะมีขีดจำกัดตอบโจทย์คุณมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าคุณได้ตกลงเครื่องมืออะไรบ้างกับทางบริษัทออกแบบเว็บไซต์ แน่นอนว่าหากระบบมีความยากในการพัฒนา จะทำให้มีผลต่อต้นทุนด้วยแน่นอน แต่อย่าลืมไปว่าการจ่ายสำหรับระบบเหล่านี้ คือ การจ่ายครั้งเดียวจบ
อ่านมาจนถึงตอนนี้ในฐานะคนที่ทำธุรกิจคลินิกคุณรู้สึกอย่างไร หากคุณมีเพียงแค่ Social Media แต่ยังขาดเว็บไซต์? การขยับตัวเริ่มทำเว็บไซต์ตอนนี้ถือว่ายังไม่สายไปสำหรับรักษาผลประโยชน์เกี่ยวกับธุรกิจของคุณเอง หากยังมีข้อสงสัย ลองอ่านหัวข้อต่อไปของเราดู
รวมคำถามเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์คลินิก
หลายข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์ธุรกิจคลินิก เราได้รวบรวมคำตอบที่เข้าใจง่ายที่สุดเอาไว้ให้แล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสามารถเก็บรายละเอียดไปวางแผนในการทำเว็บไซต์ต่อไปได้ ดังนี้
1. ใช้ชื่อเว็บเป็นชื่อเดียวกับคลินิกได้หรือไม่
สามารถใช้ชื่อเดียวกับชื่อคลินิกได้ โดยต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น และต้องไม่มีใครเคยใช้ชื่อนั้น ๆ ในการทำเว็บไซต์มาก่อน เนื่องจากชื่อของเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่า “Domain Name” สามารถตั้งชื่อได้แบบไม่ซ้ำกันเท่านั้น หากซ้ำกันจำเป็นต้องเติมตัวอักษรเพิ่มเข้าไป แต่โดยทั่วไปแล้ว หากชื่อของคลินิกเป็นเอกลักษณ์มักจะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
จุดที่ต้องระวัง คือ นามสกุลของเว็บไซต์ เช่น .com หรือ co.th และอื่น ๆ บางชื่อโดเมนจำเป็นต้องใช้เอกสารในการยืนยันธุรกิจนั้น ๆ เช่น co.th แต่บางนามสกุลไม่ต้องใช้เอกสาร เช่น .com ขึ้นอยู่กับว่าคลินิกของคุณเลือกใช้นามสกุลไหน ควรศึกษาให้ดีก่อน
2. ต้องหา Web Hosting เองหรือไม่
โดยปกติขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง บริษัทที่รับทำเว็บไซต์โดยทั่วไปจะมีแนะนำให้ หรือหาให้ แต่คลินิกของคุณเองก็สามารถเลือกใช้บริการกับ Hosting ที่คุณไว้วางใจได้เช่นกัน แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับ Hosting จะจ่ายแยกออกมาจากค่าบริการทำเว็บไซต์ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายรายปี ส่วนราคาขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ ประเภทของ Hosting และขนาดพื้นที่ของ Hosting ที่คุณเลือกใช้
3. สามารถเปลี่ยนโปรโมชันที่ Banner ได้หรือไม่
การลงภาพ Banner เพื่อนำเสนอโปรโมชันในแต่ละเดือน หากทำเว็บไซต์โดยทั่วไป โดยเฉพาะเว็บไซต์ Custom Made จะสามารถเปลี่ยนได้ด้วยตนเองตามใจชอบ และสามารถปรับแต่งได้มากกว่า Banner เช่น การเสริมประโยคตัวอักษรลงไป หรือทำปุ่มเฉพาะใน Banner เป็นต้น โดยรายละเอียดเหล่านี้จะต้องมีการตกลงกับทางทีม Web Developer ก่อนว่าต้องการให้ปรับแต่งส่วนไหนได้เองบ้าง
4. เว็บไซต์สามารถกดไปยัง Facebook หรือ Line ของคลินิกได้ไหม
สามารถทำได้แน่นอน โดยทั่วไปจะมีการแทรกปุ่มติดต่อ Social Media เหล่านี้เอาไว้ส่วนบนของเว็บไซต์ และส่วนท้ายของเว็บไซต์อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถ Custom ให้ปรากฏในส่วนอื่น ๆ ของเว็บไซต์ตามที่ต้องการได้ด้วย เช่น ในส่วนของบทความต่าง ๆ เป็นต้น
5. ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมหลังจากขึ้นเว็บไซต์หรือไม่
ขึ้นอยู่กับความต้องการของทางคลินิกเองด้วยว่าต้องการบริการเสริมหรือไม่ ส่วนมากจะเป็นการให้บริการช่วยดูแลระบบหลังบ้าน (Maintenance Service Agreement) ในระยะแรก ๆ โดยหากใช้บริการทำเว็บไซต์กับเราจะมีการดูแลส่วนนี้ฟรีในปีแรก นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายรายปีที่คนมีเว็บไซต์ทุกคนต้องจ่ายกันตลอด คือ ค่าชื่อเว็บไซต์ (Domain Name) และค่าเช่าพื้นที่เว็บไซต์ (Hosting)
ในกรณีที่เว็บไซต์ออนไลน์ไปแล้วหลายปี ค่าใช้จ่ายที่อาจตามมา คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ใหม่ หรือการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัย มีระบบที่ใหม่กว่าเดิม ในส่วนนี้มีค่าใช้จ่ายไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าคลินิกต้องการให้เว็บไซต์มีระบบใหม่อะไรบ้างในเวลานั้น
ทำเว็บคลินิกกับ Launch Platform ราคาเท่าไหร่
เราเชื่อว่าถ้าคุณอ่านมาเรื่อย ๆ และมาจบที่จุดนี้เท่ากับว่าคุณอาจสนใจที่จะทำเว็บไซต์คลินิกแน่นอนแล้ว ทางบริษัท Launch Platform ยินดีที่จะให้บริการด้านนี้ โดยเรามีประสบการณ์ด้านการดีไซน์เว็บไซต์โดยเฉพาะ สำหรับการทำเว็บไซต์ธุรกิจคลินิกโดยปกติแล้วจะเป็นเว็บไซต์ที่เน้นหนักด้านการให้ข้อมูล โดยเราคิดค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 28,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้คุณยังสามารถติดต่อสอบถามระบบที่คุณต้องการเป็นพิเศษ เพื่อให้เราคำนวณราคาที่เหมาะสมให้ พร้อมความช่วยเหลือด้านการตลาดฟรี เพียงติดต่อปรึกษาเราโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:
