การสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ หรือองค์กร ถือว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงธุรกิจ สินค้า และการบริการของเราได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นเว็บไซต์จึงจะต้องตอบโจทย์ต่อการใช้งานของลูกค้า รวมไปถึงของ Google Bot เพื่อให้เว็บไซต์ของเราได้รับการโปรโมทได้มากที่สุด Category จึงเป็นฟังก์ชั่นที่สำคัญที่ทุกเว็บไซต์ต้องมี บทความนี้จะพาไปดูกันว่า Category คืออะไร? สำคัญกับการสร้างเว็บไซต์อย่างไร
กดเลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
Category คืออะไร?
Category ฟังก์ชั่นที่มีไว้สำหรับการจัดกลุ่มโพสต์บนเว็บไซต์ของเรา โดยระบบจะช่วยในการแยกประเภทของบทความ หรือหมวดต่าง ๆ ในเว็บไซต์ตามลักษณะหรือลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เพื่อจัดการและนำเสนอข้อมูลที่สะดวกต่อการทำนายหรือการค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหากับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์
นอกจาก Category จะช่วยทำให้เว็บไซต์สามารถใช้งานได้ง่ายแล้ว Category ยังสามารถใช้สำหรับการทางการตลาดได้ นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องความปลอดภัยของเว็บไซต์อีกด้วย เพราะทุกองค์กรโดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ ที่จำเป็นจะต้องโต้ตอบกับเว็บไซต์ และผู้ใช้งานจำนวนมากทุกวัน โดยบางส่วนจะมีความเสี่ยงอย่างแน่นอน ทั้งต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน หรือข้อมูลของเว็บไซต์นั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : รวม 10 ประเภทของเว็บไซต์ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่เหมาะสม
Category สำคัญกับการสร้างเว็บไซต์อย่างไร?
Category ถือว่าเป็นฟังก์ชั่นที่จะช่วยจัดกลุ่มโพสต์บนเว็บไซต์ของคุณในวงกว้าง และวงแคบได้ โดยมีการแบ่งหมวดหมู่เป็นแบบลำดับชั้น ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถสร้างหมวดหมู่ย่อยได้นั่นเอง จึงทำให้ในส่วนนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่การทำธุรกิจไม่ควรมองข้าม เราจะพาไปดูกันว่า Category สำคัญกับเว็บไซต์อย่างไร
![what-is-category-website Category คือ](https://minio.launchplatform.co.th/uploads/article/what-is-category-website.webp)
1.ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้เว็บไซต์ที่ดี
User Experience หรือประสบการณ์สำหรับผู้ใช้งาน ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากในการสร้างเว็บไซต์ เพราะจุดประสงค์ของการสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ หรือองค์กรช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงธุรกิจ สินค้า และการบริการของเราได้ง่ายขึ้น เว็บไซต์จึงจะต้องตอบโจทย์ต่อการใช้งานของลูกค้า เพื่อการใช้งานที่ง่าย และประสบการณ์ในการใช้เว็บไซต์ที่ดี
การสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดี จึงต้องพึ่งพาฟังก์ชั่นอย่าง Category ที่จะช่วยให้การใช้งานเว็บไซต์ดูง่าย และสะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังส่งผลต่อการจัดอันดับของ SERPs และ Google เนื่องจากเว็บไซต์มีความ Friendly ต่อผู้ใช้งานมากนั่นเอง
2.เป็นการวางแผนเนื้อหาบนเว็บไซต์
การทำ และแบ่งแยก Category ถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนเริ่มทำเว็บไซต์ โดยเป็นเหมือนการวางแผน สำหรับเนื้อหาบนเว็บไซต์ ว่าบนเว็บไซต์ฉบับสมบูรณ์ควรจะมีเนื้อหาอะไรบ้าง ควรที่จะทำเนื้อหาเป็นแบบไหน ควรมีหัวข้ออะไร เพื่อทำการจัดกลุ่มเนื้อหาให้ผู้ใช้งานสามารถได้รับข้อมูลที่ต้องการอย่างสะดวกรวดเร็วที่สุด
Category ยังช่วยทำให้แผนงานการขยายเว็บไซต์ในอนาคต ยังสามารถทำได้ง่ายขึ้น เพราะทุกอย่างมีการวางไว้อย่างเป็นระบบ ที่สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการรื้อเว็บไซต์ หรือรื้อเนื้อหาเพื่อทำใหม่ทุกครั้งที่ต้องการขยายเว็บไซต์ใหม่นั่นเอง
![how-to-do-category-for-website การทำ category บนเว็บไซต์](https://minio.launchplatform.co.th/uploads/article/how-to-do-category-for-website.webp)
3.จัดหมวดหมู่เนื้อหาในเว็บไซต์ให้เป็นกลุ่ม
Category จะช่วยให้เราสามารถจัดหมวดหมู่เนื้อหาในเว็บไซต์ให้เป็นกลุ่มได้ ซึ่งจะไม่มีหมวดหมู่เฉพาะเจาะจง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ Category จะอยู่ระหว่าง 5 ถึง 10 เพื่อจัดหมวดหมู่เนื้อหาในเว็บไซต์ของเราอย่างถูกต้อง และทำให้เว็บไซต์ของเราดูได้ง่ายขึ้น
โดย Category จะมีไว้เพื่อรวมกลุ่มโพสต์ และเนื้อหาจำนวนมาก ซึ่งเราสามารถใช้หมวดหมู่ย่อย และแท็กเพื่อแบ่งเนื้อหาของเราออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ได้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น
4.Category ทำให้ Search Engine เข้าใจเว็บไซต์ของเรามากขึ้น
Category เป็นฟังก์ชั่นที่จะทำให้ Search Engine สามารถเข้าใจเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น เนื่องจาก Category มีหน้าที่บอกว่า แต่ละหน้า หรือเนื้อหาในเว็บไซต์กำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ เชื่อมโยงถึงกันอย่างไร และเกี่ยวข้องกันแค่ไหน ส่งผลดีต่อการทำ SEO
Category จะทำให้ Google Bot เมื่อเข้ามาทำการ Crawl ข้อมูล ก็จะสามารถทำความเข้าใจกับเว็บไซต์ในแต่ละหน้าของเราได้อย่างละเอียด ซึ่ง Category จะทำหน้าที่เป็นเหมือนไกด์นำทางให้ หากไกด์ทำหน้าที่ดี ทุกหน้าก็จะถูกจัดเก็บข้อมูลโดยไม่เกิดการตกหล่น และถูกจัดอันดับอย่างรวดเร็วมากขึ้นด้วย
![what-is-category-website 2 Category มีอะไรบ้าง](https://minio.launchplatform.co.th/uploads/article/what-is-category-website 2.webp)
5.Category ทำให้เว็บไซต์มีโอกาสได้รับ Google Sitelinks มากขึ้น
Category มีส่วนช่วยที่จะทำให้เว็บไซต์มีโอกาสได้รับ Google Sitelinks มากขึ้น ซึ่งเป็นลิงก์ที่จะแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับคำที่ค้นหา Sitelink นี้จะช่วยเพิ่มจำนวนการคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ (CTR) ช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดเวลา และค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นส่วนช่วยในการสร้างความน่าเชื่อถือจาก Google รวมถึงช่วยสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ขอบคุณวิดีโอจาก : พลากร สอนสร้างเว็บ
Category และ Tag แตกต่างกันอย่างไร
Category และ Tags คือสององค์ประกอบหลักที่มักใช้ในการจัดการข้อมูลในเว็บไซต์ หรือระบบสารสนเทศต่าง ๆ โดยมีลักษณะ และการใช้งานที่แตกต่างกัน
Category: ใช้เพื่อแบ่งแยกหรือจัดกลุ่มข้อมูลให้มีโครงสร้างที่ชัดเจน เช่น หมวดหมู่ข่าว, หมวดหมู่บทความ, หรือหมวดหมู่สินค้าในร้านค้าออนไลน์
Tags: ใช้เพื่อเพิ่มความละเอียดในการอธิบายหรือระบุคุณลักษณะของเนื้อหา เช่น แท็กเพื่อระบุประเภทของข่าว, แท็กเพื่อระบุคีย์เวิร์ดหลัก, หรือแท็กเพื่อเชื่อมโยงกับความสนใจหรือคำค้นหา
จะเห็นได้ว่า Category มักจะเป็นฟังก์ชั่นหลักที่ใช้ในการจัดหมวดหมู่ทั้งเว็บไซต์ และระบบ ในขณะที่ Tags มักจะเป็นฟังก์ชั่นย่อยที่ใช้เพิ่มเติมรายละเอียด หรือลักษณะของเนื้อหาแต่ละชิ้นในหมวดหมู่นั้น ๆ นอกจากนั้น Tags มักจะถูกใช้ในการช่วยค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องมากขึ้น ในขณะที่ Category มักถูกใช้ในการค้นหา หรือนำทางเนื้อหาในระดับทั้งหมดของเว็บไซต์
Category ฟังก์ชั่นสำคัญสำหรับการสร้างเว็บไซต์
Category ถือเป็นฟังก์ชั่นสำคัญสำหรับการสร้างเว็บไซต์ เพื่อจัดกลุ่มคอนเทนต์ ให้เราสามารถค้นหาคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น โดยไม่หลุดธีม และเป็นคอนเซปต์ที่คำนึงถึงประโยชน์ของผู้ใช้ นอกจากนั้นยังส่งผลต่อการทำการตลาดบนโลกออนไลน์อีกด้วย ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกธุรกิจไม่ควรมองข้าม
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:
ที่มาข้อมูล : 1, 2