DEVELOP WEBSITE & MOBILE APPLICATION PLATFORMS FOR ALL

Ahrefs โปรแกรมวิเคราะห์เว็บไซต์ และค้นหา Keywords ตัวสำคัญสำหรับการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกในการค้นหา โปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูง แต่การอ่านค่าต่าง ๆ และข้อมูลที่มากมาย ทำให้มือใหม่ที่เข้ามาทำงานสายนี้อาจจะสับสนจนปวดหัวได้ Launch Platform จึงขอเป็นตัวแทนในการอธิบายรูปแบบการใช้งานเบื้องต้น และการอ่านค่าสำคัญต่าง ๆ ที่คุณต้องรู้

กดเลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

โปรแกรม Ahrefs คืออะไร

Ahrefs อ่านว่า “เอช-เรฟ” คือ เครื่องมือช่วยวิเคราะห์การทำ SEO ที่มีความโดดเด่นอย่างมากในตอนนี้ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย และครอบคลุมมากที่สุดโปรแกรมหนึ่ง เช่น Ahrefs keyword generator, การดู Backlinks และการดู Traffic เป็นต้น โดยจุดที่โดดเด่นที่สุด คือ การ Tracking เว็บไซต์สำหรับ Update ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบข้อมูล และนำมาวางแผนทำ SEO ต่อไป นอกจากนี้ Ahrefs ยังเป็นเครื่องมือยอดฮิตสำหรับการตรวจสอบเว็บไซต์ของคู่แข่งแบบเบื้องต้นที่ดีที่สุดในตอนนี้อีกด้วย

ถ้าคุณสนใจเรื่อง Ahrefs : อย่ามองข้ามบทความนี้ : 

สอนใช้ Ahrefs หา Keywords แบบมือโปรเขาหากันยังไง

ขอบคุณวิดีโอจาก : Ahrefs

Ahrefs ราคารายเดือนเท่าไหร่

การจ่ายเงินเพื่อใช้งานมีทั้งแบบรายปี และรายเดือนแบบโปรแกรมทั่วไป โดยมีรายละเอียดของราคาในแต่ละแพ็กเกจโดยเราจะอิงประมาณจากการจ่ายเป็นรายเดือน ดังนี้

  • Lite : ราคา 4,242 บาท/เดือน

  • Standard : ราคา 8,187 บาท/เดือน

  • Advanced : ราคา 14,761 บาท/เดือน

โดยแพ็กเกจที่ได้รับความนิยม คือ Advanced เนื่องจากสามารถใช้งานทุกฟีเจอร์ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าที่สุดแล้วหากคุณต้องการเอาจริงเอาจังในการทำ SEO แต่ถ้าหากคุณสู้ราคาไม่ไหว การมองหาโปรแกรมอื่น ๆ ที่มีศักยภาพเหมาะสมในการทำงานก็เป็นทางเลือกที่ไม่เสียหาย

Tip : ในประเทศไทยจะนิยมหารค่าบริการกันมากกว่าจ่ายคนเดียว แม้แต่การใช้งานในระดับบริษัท เพื่อความคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง

ahrefs pricing ราคา

Ahrefs ใช้ฟรีได้หรือไม่

ถ้าตอบตรง ๆ คือ “ได้” แต่ก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย ส่วนมากจะมีคนเข้าไปใช้งานเครื่องมือที่เรียกว่า “Ahrefs backlink checker” เป็นการตรวจดู Backlinks ของเว็บไซต์นั้น ๆ แต่การดูรายงานข้อมูลแบบละเอียดจำเป็นที่จะต้องเสียเงินอยู่ดี และยังจำกัดการใช้งานชนิดที่ขยับตัวได้ยาก

บริการ : ทำ SEO สายขาว ให้ติดหน้าแรกของ Google ด้วยวิธี Organic ผ่านการใช้ Ahrefs โฟกัสคุณภาพของเนื้อหา ช่วยทำตั้งแต่การวางรากฐาน พร้อมให้คำปรึกษาฟรี

การเพิ่มเว็บไซต์ของคุณเข้าสู่ระบบ Ahrefs ทำได้ไม่ยาก

ปัจจุบันระบบของทาง Ahrefs พัฒนาไปไกล การเชื่อมต่อเว็บไซต์ของคุณสามารถทำได้โดยง่ายเพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น ต่างจากเมื่อก่อนที่ต้องมีขั้นตอนหลายขั้นตอนกว่าจะติดตั้งการ Tracking ลงไปได้ เราแนะนำให้คุณเลือกเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อมก่อนลงมือ ดังนี้

  • คุณต้องมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง หรือมีสิทธิการเข้าถึงการตั้งค่าของเว็บไซต์

  • ทำการเชื่อมต่อ Google Search Console เข้ากับเว็บไซต์ก่อน

  • ควรรอให้ Google Search Console แสดงข้อมูล ส่วนมากไม่เกิน 3 วัน

  • ควร Log in อีเมลที่เป็นเจ้าของ หรืออีเมลที่มีสิทธิในการเข้าถึงการตั้งค่าของเว็บไซต์ และเป็นอีเมลเดียวกับที่ใช้เชื่อมต่อ Google Search Console

ahrefs ติดตั้งเว็บไซต์

หลังจากเตรียมข้อมูลด้านบนเสร็จแล้ว เลือกเมนู +Create ใน Ahrefs เลือกเมนูการเชื่อมต่อด้านซ้าย กด Import เพื่อเริ่มการเชื่อมต่อแบบ Auto ผ่านการอนุญาตให้ Ahrefs เข้าถึงข้อมูลใน Google Search Console จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ระบบบอกเป็นขั้นตอน เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จแล้ว โดยหลังจากเชื่อมต่อเว็บไซต์เข้าไปแล้ว ระบบจะใช้เวลาช่วงหนึ่งในการเก็บข้อมูล และแสดงผลในหน้า Dashboard ส่วนจำนวน Project ขึ้นอยู่กับว่าคุณได้ติด Tracking ไปทั้งหมดกี่เว็บไซต์

ahrefs เพิ่มเว็บไซต์เข้าระบบ

ทำไมจึงต้อง Tracking เว็บไซต์ใน Ahrefs

เมื่อคุณติดตั้งไปแล้ว คุณจะสามารถ Track ข้อมูลได้หลายส่วน และไม่จำเป็นต้องนำเว็บไซต์มากดวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ทุกครั้ง ข้อมูลของคุณจะแสดงใน Dashboard และสามารถกดเข้าไปดูข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น Trafiic, Keywords และ Backlinks เป็นต้น

ahrefs dashboard

อีกส่วนที่สำคัญมาก คือ การกำหนดชุดข้อมูล Keywords ที่คุณต้องการให้ระบบคอยติดตามอันดับใน Google สำหรับเว็บไซต์ของคุณ โดย Ahrefs จะแสดงข้อมูลออกมาเป็นตาราง และมีการแสดงการขึ้นลงของอันดับ รวมถึง Search Volume ของ Keywords นั้น ๆ เป็นต้น

ahrefs เพิ่ม keywords

โดยขั้นตอนในการ Tracking ชุด Keywords ทำได้ไม่ยาก เพียงเลือกเมนู Track Keyword ที่หน้า Dashboard แล้วเลือกเพิ่ม Keyword ในขั้นตอนนี้ คุณจะเห็นหน้าเปล่า ๆ ที่คุณสามารถพิมพ์ Keywords ลงไปได้ โดยจะพิมพ์บรรทัดละ 1 Keyword ให้คุณพิมพ์ลงไปจนครบ จากนั้นกดไปต่อเพื่อให้ระบบจัดการ Add ข้อมูลลงไป และอย่าลืมเลือกพื้นที่เป็นประเทศไทยด้วย โดยระบบจะใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่งถึงจะมีการแสดงผลข้อมูลจุดนี้ขึ้นมา

Tip : จะง่ายกว่ามากหากคุณทำการรวบรวม Keywords ใน excel แล้วทำการ Copy ตารางมาวางได้เลย โดยระบบของ Ahrefs จะเรียง Keywords ให้แบบอัตโนมัติ

ahrefs tracking keyword

10 ข้อมูลที่สำคัญใน Ahrefs ต้องอ่านให้เป็น 

หลังจากติดตั้งเว็บไซต์ลงในระบบแล้ว และทำการเพิ่ม Keywords ที่ต้องการ Tracking แล้ว ต่อไปคือ การอ่านข้อมูลต่าง ๆ ใน Ahrefs เนื่องจากมีข้อมูลยิบย่อยเยอะ เราจะหยิบยกเฉพาะจุดสำคัญที่คุณควรรู้ ควรอ่านเป็น เพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อไป

1.Health Score

เป็นชุดข้อมูลที่อยู่ซ้ายมือสุดในหน้า Dashboard หน้าแรก โดยข้อมูลตรงนี้จะแสดงเป็นตัวเลข มีคะแนนเต็ม 100 โดยวัดจากความสมบูรณ์ของเว็บไซต์ทางด้านโครงสร้าง และการทำงานในรูปแบบพื้นฐาน เมื่อกดเข้าไป คุณจะสามารถตรวจสอบได้ว่าเว็บไซต์ของคุณมีจุดไหนที่ควรแก้ไขบ้าง ในหมวดของ Issue เช่น การไม่ได้ตั้ง Tile หรือ Description, หน้าเว็บที่ช้า ไปจนถึงการใช้ Headers 1 ซ้ำกันหลายครั้งในหน้าเดียว เป็นต้น โดยจะมีสัญลักษณ์ 3 สิ่งทีบอกถึงระดับความสำคัญของปัญหา ได้แก่

  • สีแดง : ควรแก้ไขให้เร็วที่สุด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

  • สีเหลือง : ปัญหารอง ควรแก้ไข แต่ไม่ได้ส่งผลเสียเท่ากับปัญหาสีแดง

  • สีฟ้า : เป็นปัญหาในหมวดเล็กน้อย ปัญหายิบย่อยที่ค่อย ๆ ไล่ตามจัดการตามความเหมาะสม

ahrefs health score

หลังจากแก้ไขแล้วจะทำให้คะแนนเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปมักจะมีคะแนนที่ 80+ แต่ถ้าถามเราว่าต้องสนใจในจุดนี้แค่ไหน? จริง ๆ แล้วในส่วนนี้เป็นส่วนที่เราเอาไว้เช็กจุดที่เราอาจหลุดตรวจสอบไป อย่างไรก็ตามความตั้งใจในการตั้งค่าบางอย่างภายในเว็บไซต์ของเราเอง อาจส่งผลต่อ Health Score ที่ลดลงได้ เราจึงแนะนำว่าให้คุณตรวจสอบปัญหาที่เจอ และทำการแก้ไขตามความเหมาะสมที่คุณเห็นสมควรก็เพียงพอแล้ว

ahrefs การอ่านรีพอร์ท

2.Ref.domains

เป็นการบอก “จำนวนของโดเมนที่มีการกล่าวถึงเว็บไซต์ของคุณ” โดยค่าวัดจะนับเป็นโดเมนละ 1 ครั้งเท่านั้น เช่น เว็บไซต์ A มีการกล่าวถึงเว็บไซต์ของคุณ 10 ครั้ง ก็จะนับเป็น 1 โดเมนเท่านั้น ต่อให้หลังจากนั้นจะมีการกล่าวถึงเว็บคุณอีกกี่รอบ แต่ถ้าผู้ที่กล่าวถึงเป็นเว็บไซต์ A เหมือนเดิม จำนวนของ Ref.domains ก็จะยังคงเป็น 1 เช่นเดิม แต่ถ้าหากมีเว็บอื่นกล่าวถึงนอกจากเว็บไซต์ A เช่น มีเว็บไซต์ B กล่าวถึงคุณ จำนวน Ref.domains ถึงจะถูกนับเป็น 2 Ref.domains

3.Backlinks

เป็นการบอกจำนวนที่เว็บไซต์ของคุณถูกกล่าวถึง “ทั้งหมด” โดยจะไม่ได้นับเป็นโดเมนแบบ Ref.domains เช่น เว็บไซต์ A กล่าวถึงคุณ 10 ครั้ง จำนวน Backlinks จะนับเป็น 10 ทันที ต่อไปเว็บไซต์ A กล่าวถึงคุณเพิ่มอีก 5 ครั้ง ระบบก็จะนับทบไปอีก เป็น 15 Backlinks เป็นต้น

4.UR

URL Rating เป็นคะแนนของคุณภาพ Backlinks ต่อหน้าเว็บ 1 URL เช่น หน้าบทความ 1 บทความ หรือหน้า Sale Page 1 หน้า เป็นการบ่งบอกว่าเว็บไซต์ที่กล่าวอ้างถึงเว็บไซต์ของคุณเฉลี่ยแล้ว เว็บเหล่านั้นมีคุณภาพมากแค่ไหน โดยมีคะแนนเต็ม 100 ส่วนมากข้อมูลในส่วนนี้มักจะไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ เพราะคนส่วนใหญ่มักสนใจคะแนนของหัวข้อต่อไปมากกว่า

5.DR

Domain Rating คือ การนับคะแนนคล้ายกับ UR แต่รอบนี้มาตรวัดคะแนนจะวัดเป็นค่าเฉลี่ยของโดเมนของคุณแทน โดเมน คือ เว็บไซต์ของคุณในรูปแบบภาพรวมใหญ่ เช่น .co.th หรือ .com เป็นต้น ไม่ใช่การเจาะจงไปที่หน้าใดหน้าหนึ่ง โดย DR เป็นการวัดคุณภาพของเว็บไซต์ที่กล่าวถึงคุณเหมือนกัน และจะมีคะแนนเต็ม 100 เช่นกัน คะแนน DR เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญมาก และมีความเชื่อว่า หากมีคะแนน DR ที่สูง จะส่งผลดีต่อการติดอันดับหน้าแรกบน Google ได้อีกด้วย

ahrefs basic report

6.Keywords

เป็นการวัดจำนวนของ Keywords ที่เว็บไซต์ของคุณสามารถทำอันดับได้ โดยปกติแล้วระบบจะนับเมื่อเว็บของคุณได้ Keywords ใด ๆ ติด 1 ใน 100 อันดับใน Google หรือติดอันดับใน 10 หน้าแรกของผลการค้นหานั่นเอง ยิ่งมีจำนวน Keywords ที่เยอะขึ้น ยิ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเว็บไซต์คุณ

ข้อมูลจุดนี้หากคุณกดเข้าไป จะแสดง Keywords ทั้งหมดในแบบตาราง และจะมีการบอกอันดับที่ติดอยู่ในหน้า Google รวมถึง Search Volume อีกด้วย ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้คุณสามารถมองเห็นจุดเด่น และจุดอ่อนในการทำอันดับ SEO ได้เป็นอย่างดี

7.Traffic

เป็นจำนวน “ประมาณ” ของผู้ใช้งานที่เข้าเว็บไซต์ของคุณจาก Keywords ที่คุณมี จำนวนนี้เป็นการประมาณจากอันดับใน Google เฉลี่ยกับ Search Volume ของแต่ละ Keywords ดังนั้นหากคุณต้องการข้อมูลที่แม่นยำ เราแนะนำให้ไปดูจำนวนการ Clicks ใน Google Search Console แทนจะดีกว่า

traffic report

8.Keywords หมวด Paid Search

เป็นจำนวนของ Keywords ที่ระบบมองว่าเว็บไซต์ของคุณได้ทำการซื้อโฆษณาเอาไว้จากการทำ SEM (Google ADS) ยิ่งมีจำนวนเยอะ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางการตลาดของเว็บไซต์นั้น ๆ ได้

9.Traffic หมวด Paid Search

เป็นการบอก Traffic ที่อาจได้จากการทำ SEM (Google ADS) ภายในเว็บไซต์ ยิ่งจำนวนมาก ยิ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการยิงโฆษณานั่นเอง

traffic report จาก paid

10.Top organic competitors

เป็นการตรวจจับคู่แข่งของเว็บไซต์คุณผ่าน AI ของ Ahrefs โดยจะวัดจาก Keywords ที่มีเป็นหลัก โดยข้อมูลจะแสดงให้เห็นถึงขนาดของวงกลม ยิ่งใหญ่ยิ่งมี Keywords เยอะ และสามารถกดดูได้สูงสุด 20 คู่แข่ง อย่างไรก็ตามด้วยการแสดงผลจากข้อมูลของ AI บางครั้งอาจมีการนำเว็บไซต์คู่แข่งมาแสดงผลไม่ค่อยถูกต้องเท่าที่ควร หากคุณจะใช้ข้อมูลในส่วนนี้ควรต้องกรองก่อนด้วยตนเองอีกรอบ

5 สิ่งที่ Ahrefs ไม่ค่อยอยากบอกคุณ

  1. Ahrefs เป็นเครื่องมืออันดับ 1 ด้านการทำ SEO รองลงมาคือ Semrush ซึ่งตอนนี้เริ่มถูกท้าทายความนิยมจาก Ubersuggest ด้วยการใช้งานที่ละเอียด แต่ง่าย และมีราคาที่ถูกกว่าชัดเจน

  2. หากคุณซื้อแพ็กเกจไปแล้ว อย่าลืมติดตั้ง Ahrefs Extension ที่เป็นส่วนเสริมของ Web Browser ทำให้คุณดูการวิเคราะห์เว็บได้จากแถบเมนูลัดทันที

  3. คะแนน UR และ DR เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานมักมองว่าสำคัญ แต่คะแนนเหล่านี้มาจาก Ahrefs บัญญัติขึ้นมาเอง ทาง Google ไม่ได้บัญญัติขึ้นมา ดังนั้นความจริง คือ คุณไม่ควรให้ความสำคัญกับสิ่งนี้มากจนเกินไป

  4. การแสดงจำนวน Keywords ในเว็บไซต์ถึงจะสำคัญ แต่ข้อมูลจะไม่ Real time โดยจะแสดงข้อมูลย้อนหลังไกลสูงสุดถึง 14 วัน

  5. จำนวนของ Ref.domains และ Backlinks ที่ปรากฏขึ้นมาเป็นการตรวจจับของ Ahrefs เท่านั้นไม่ได้รับรองจาก Google คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลการอ้างอิงเว็บไซต์คุณผ่าน Google Search Console ที่แถบเมนูซ้ายมือ “Links” ตรงจุดนี้ คือ เว็บไซต์ที่มีการตรวจจับได้อย่างถูกต้องทั้งหมด

backlinks report ahrefs and GSC

Ahrefs เป็นหนึ่งในเครื่องมือทำ SEO ที่ Launch Platform ใช้งาน

บริษัท Launch Platform เป็นผู้ให้บริการทำ SEO รูปแบบ Organic เรามีเครื่องมือในการทำ SEO ที่หลากหลายนอกจาก AI ทั่วไป ยังมี Ahrefs เป็นส่วนหนึ่งในเครื่องมือเหล่านั้น เราใช้เครื่องมือตั้งแต่การวิเคราะห์ Keyword การติดตามผลการดำเนินงาน และการวิเคราะห์คู่แข่ง เพื่อให้การวางแผนทำ SEO ภายในเว็บไซต์ของลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และหวังผลได้

ขอบคุณวิดีโอจาก : Ahrefs

สรุป

Ahrefs เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำ SEO หากใช้เครื่องมือนี้ได้อย่างดี จะทำให้คุณสามารถวางแผนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน และยังมีอีกหลายระบบยิบย่อยที่คุณควรเรียนรู้ต่อเนื่อง เราแนะนำให้คุณลองกดลองคลิกเล่นให้หมด เพื่อไม่ให้เสียของ อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่สูงมาก ทำให้หลายคนอาจมองหาตัวเลือกที่ใกล้เคียงและมีราคาถูกกว่าในตอนนี้

เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:

ที่มาข้อมูล :

  1. Ahrefs : How to Use Ahrefs: 11 Actionable Use Cases for Beginners

  2. Ahrefs YouTube : Complete SEO Course for Beginners: Learn to Rank #1 in Google


25 Sep 2024
Tags :



Writer
LAUNCHPLATFORM
Content Writer

บทความแนะนำที่เกี่ยวกับบริการ