ในปัจจุบันเว็บไซต์ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ที่จะทำให้มีผู้คนเข้ามาชม และใช้บริการจำนวนมาก ทำให้เว็บไซต์ได้กลายมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และเพื่อให้เว็บไซต์ของเราถูกมองเห็นบน Google ทำให้ Sitemap กลายมาเป็นสิ่งสำคัญในการทำเว็บไซต์ วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า Sitemap คืออะไร? สำคัญกับการทำเว็บไซต์อย่างไร?
Sitemap คืออะไร
Sitemap คือ โครงสร้างของเว็บไซต์, แผนผังของเว็บไซต์ หรือแผนที่ของเว็บไซต์ที่ต้องจัดทำขึ้นก่อนที่จะเริ่มทำเว็บไซต์ เพื่อให้รู้ว่าเว็บของเราต้องมีเมนูไหนบ้าง มีหน้าอะไรบ้าง เหมือนกับพิมพ์เขียว หรือสารบัญหนังสือนั่นเอง โดยเป้าหมายของการทำ Sitemap คือ เพื่อที่จะสามารถทำเว็บไซต์ได้อย่างมีแบบแผน เป็นระบบ และสะดวกต่อการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตอบข้อสงสัย ทำเว็บไซต์ราคาเท่าไหร่ ปี 2024 ใช้ทุนแค่ไหน?
Sitemap มีข้อดีอย่างไร
เมื่อจะสร้างเว็บไซต์อย่าลืมที่เตรียมตัวให้ดีที่สุด ด้วยการวาง Sitemap ให้สมบูรณ์ก่อน แม้จะเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานาน แต่จะทำให้เกิดประโยชน์หลายอย่างตามมา ได้แก่
ช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์ง่ายขึ้น มีความเป็นระบบตามแบบแผนที่วางเอาไว้
ความเป็นระบบของแผนผังทำให้ Bot ของ Google เรียนรู้เว็บไซต์ได้ง่ายดีต่อการทำ SEO
สะดวกต่อการวางแผนปรับแก้เว็บไซต์ในภายหลัง จะช่วยให้การวางแผนง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพ
Users ที่เข้ามาใช้งานเว็บไซต์มีความเข้าใจมากขึ้น เพราะเว็บไซต์ง่ายต่อการใช้งาน
5 ขั้นตอนการทำ Sitemap
หากคุณกำลังสงสัยว่าขั้นตอนในการทำ Sitemap ทำอย่างไร ทำยากไหม คำตอบคือไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่จะมีหลายขั้นตอน และใช้เวลาในการทำค่อนข้างนาน เพราะเป็นการวางรากฐานให้สมบูรณ์ที่สุดก่อนจะเริ่มขั้นตอนพัฒนาเว็บไซต์ สามารถทำตามขั้นตอนของเราได้
1.ลิสต์สิ่งที่ต้องการให้มีในเว็บไซต์
ขั้นตอนแรก คือ การประชุมทีมงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพูดคุยกันว่าเว็บไซต์ที่ต้องการสร้างควรจะต้องมีหน้าอะไร มีเมนูอะไร แต่ละส่วนมีเนื้อหาเชื่อมโยงไปที่ไหน เกี่ยวข้องกันอย่างไร ด้วยการลิสต์ออกมาเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการปรับแต่งเป็นแผนผังต่อไป ในส่วนนี้สำคัญมาก ควรลิสต์ให้ครบ เพราะจะเป็นสิ่งที่กำหนดแนวทางในการพัฒนาเว็บไซต์ต่อไป

2.จัดทำแผนผัง และตรวจสอบความสมบูรณ์
เมื่อลิสต์สิ่งที่ต้องมีในเว็บไซต์ออกมาแล้ว ต่อมาคือการทำ Sitemap website ด้วยการนำสิ่งที่ลิสต์มาจัดวางเป็นแผนผังเพื่อให้ดูเข้าใจง่ายที่สุด พร้อมกับบอกรายละเอียดที่จำเป็นให้มากที่สุด เพื่อทำให้ทีม Developer เข้าใจข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องสอบถามเพิ่มเติมมากเกินไป ทำให้กระบวนการทำเว็บไซต์รวดเร็วยิ่งขึ้น ตัวอย่าง Sitemap website ดูได้จากรูปภาพด้านล่างนี้

3.ส่งให้ทีม Developer พัฒนาเว็บไซต์
นำ Sitemap ที่เป็นแผนผังส่งให้กับทางบริษัทออกแบบเว็บไซต์ที่ได้ตกลงทำสัญญาไว้ ในขั้นตอนนี้ทางบริษัทที่มีหน้าที่ทำเว็บไซต์จะดำเนินการตาม Sitemap ที่วางเอาไว้ หากคุณต้องการปรับเปลี่ยน หรือแก้ไขอะไรในผังเว็บ ต้องรีบบอกทางทีม Developer ให้เร็วที่สุด เพราะการแก้ไขบางจุด อาจส่งผลกระทบต่อส่วนอื่น ๆ ของหลังบ้านเว็บไซต์ได้ (Coding) หากไม่มีการแก้ไขใด ๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือ การคอยตอบคำถามต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดกระบวนการพัฒนาเว็บไซต์

4.ทำการส่ง Sitemap ให้กับทาง Google
โดยปกติแล้วขั้นตอนนี้จะทำผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า “Sitemap Generator” ที่มีบริการฟรี ทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
นำโดเมนเว็บไซต์ที่พัฒนาเสร็จแล้วไปวางที่ XML-sitemap จากนั้นรอจนกว่าระบบจะทำงานเสร็จสิ้น โดยปกติแล้วจะใช้เวลาไม่นาน
เมื่อเสร็จแล้วให้กดดู Sitemap คุณจะเห็นปุ่มดาวน์โหลด ให้กดดาวน์โหลดลงเครื่อง โดยไฟล์ที่ได้จะเป็นไฟล์ Sitemap xml
นำไฟล์ที่ได้ไปติดตั้งบนเว็บไซต์ หากเป็น WordPress สามารถติดตั้งผ่าน Plug-in ได้เลย หากเป็นเว็บไซต์แบบ Custom Made สามารถติดต่อ Developer ให้ติดตั้งให้
ขั้นตอนสุดท้ายให้นำที่อยู่ของ Sitemap ไปส่งใน Google Search Console ที่แถบเมนู “Sitemaps” ได้เลย
นอกจากนี้หากคุณใช้ WordPress จะมีช่องทางอื่น ๆ ที่สามารถทำได้ง่าย อยู่ที่คุณต้องการใช้งาน เช่น การใช้งาน Plug-in Yoast SEO แล้วค่อยนำที่อยู่ของ Sitemap ไปส่งใน Google Search Console ตามลำดับ

5.คอยตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
โดยปกติแล้วการส่งแผนผังของเว็บไซต์จะไม่ต้องทำบ่อย ๆ สามารถทำได้ตั้งแต่เว็บไซต์ออนไลน์ และคอยตรวจสอบว่าหน้าเพจต่าง ๆ ของเว็บไซต์ที่เปิดขึ้นมาใหม่ หรือบทความใหม่ ๆ ที่เขียนขึ้นมาได้รับการ index จาก Google หรือไม่ หากพบว่ามีหลาย url สำคัญหลายหน้าที่ไม่ได้ถูก index สามารถนำ url เหล่านั้นมาส่งขอการทำดัชนีที่ Google Search Console แถบเมนู URL inspection หรือจะทำการตรวจสอบ Sitemap แล้วส่งอีกรอบก็ได้เช่นกัน

Sitemap ประเภทต่าง ๆ
นอกจากการทำแผนผังของเว็บไซต์ทั่วไปแล้ว ยังสามารถทำแผนผังรูปแบบอื่น ๆ ได้ด้วย ถือเป็นแนวทางเสริมกรณีที่ต้องการให้ Bot ของ Google เข้าใจโครงสร้างของส่วนอื่น ๆ เพิ่มขึ้นได้ มีทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้
Video Sitemap: เป็นการรวบรวม URL ของรูปภาพต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ และสามารถใส่รายละเอียดข้อมูลของรูปภาพนั้นได้ เช่น สามารถระบุเวลาเล่นวิดีโอ, เรตติ้ง และกำหนดความเหมาะสมของช่วงอายุได้ โดย Image Sitemap จะช่วยให้อันดับในการค้นหาเว็บไซต์จาก Google Image มีอันดับสูงขึ้น
Image Sitemap: เป็น Sitemap ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อระบุ URL ของรูปภาพที่เราใช้ประกอบคอนเทนต์ต่าง ๆ ในเว็บไซต์ โดยเราสามารถระบุตำแหน่งของรูปภาพที่อยู่บนหน้าเพจ ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาใน Google Image Search พบเข้ากับเว็บไซต์ของเรามากขึ้น
News Sitemap: เป็น Site Map สำหรับบทความหรือข่าวต่าง ๆ บนเว็บไซต์ของเรา ที่สามารถรวมชื่อบทความ ข่าว และวันที่ที่เผยแพร่ได้ งจะทำให้บทความ คอนเทนต์ข่าวสารพวกนี้ขึ้นไปอยู่ในหน้าฟีดข่าวของ Google แล้วทาง Google จะส่ง BOT มาสำรวจหน้าเว็บไซต์เพื่อหาข่าวสารเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
Mobile Sitemap: เป็น Site Map สำหรับ Feature Phone ซึ่งไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้วในปัจจุบัน เนื่องจากมี Smartphone นั่นเอง
แม้ในปัจจุบันทาง Google Bot จะมีการพัฒนา Algorithm ให้มีการสำรวจได้หลากหลาย ละเอียด และครอบคลุมมากขึ้นแล้วก็จริง แต่การทำ Sitemap จะช่วยทำให้การค้นหาของ Google มีคุณภาพมากขึ้น และยังทำให้การเสิร์ชส่วนอื่น ๆ สามารถเจอเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้นด้วย หากคุณต้องการทำเว็บไซต์ และต้องการปรึกษาเรื่องการทำ Sitemap สามารถติดต่อ Launch Platform ได้ที่นี่
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:
ที่มาข้อมูล : 1, 2