12 วิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์ ดึงคนเข้าเว็บฉบับปี 2024
เพิ่มยอดคนเข้าเว็บสามารถทำได้หลายวิธี แต่ถ้าหากคุณเป็นมือใหม่ เราสามารถช่วยคุณได้ รวม 12 วิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์ ที่คุณสามารถทำตามได้เลยในปีนี้
12 วิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์ Update ปี 2024
การเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ เป็นวิธีพื้นฐานสำหรับการสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ และเป็นการเพิ่มโอกาสให้ตนเองสามารถขายของได้มากขึ้น เรามีเทคนิคทั้ง 12 เทคนิคที่อยากจะแชร์ให้ฟรี ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 8 เทคนิคใช้งาน Google Trends 2024 อย่างมืออาชีพ
1. ปรับโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เหมาะสม
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำเว็บไซต์การวาง “โครงสร้างของเว็บ (Sitemap)” สำคัญมาก ในการจัดระเบียบว่าจะเมนูหลักอะไรบ้าง และเมื่อเข้าไปี่เมนูหลักจะมีข้อมูลเนื้อหาอะไรอยู่ในนั้น ในส่วนของโครงสร้างเว็บไซต์ยังรวมไปถึง “ชุดคำ (Wording)” ที่จะใช้ในแต่ละหน้าของเว็บไซต์ที่ต้องบอกชัดเจนว่าหน้านั้นเกี่ยวกับอะไร และตั้ง Heading เรียงลำดับให้เหมาะสม
การวางโครงสร้างที่ชัดเจน และคำในหน้าเว็บที่วิเคราะห์ออกมาแล้วว่าตรงกับธุรกิจของเรา จะทำให้ Google สามารถเข้าใจเราได้มากยิ่งขึ้น สามารถจำแนกประเภทของเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตามหากเว็บไซต์ออนไลน์มานานแล้ว การปรับ Sitemap จะส่งผลเสียต่อเว็บ เพราะโครงสร้างที่เปลี่ยนไป หากมีการทำ SEO (เทคนิคเพื่อให้ติดอันดับ Google) อยู่แล้ว จะทำให้คะแนน SEO ตกได้ แต่จะตกเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ข้อดีของการทำ Sitemap : เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเริ่มทำเว็บไซต์ ถ้าทำจุดนี้สมบูรณ์เว็บไซต์จะมีทิศทางชัดเจนส่งผลดีในระยะยาว
ข้อเสียของการทำ Sitemap : ใช้ระยะเวลานาน และไม่เหมาะสมกับเว็บไซต์ที่มีคนเข้าเยอะ ติดอันดับใน Google อยู่แล้ว เพราะการเปลี่ยนโครงสร้าง Google จำเป็นต้องเรียนรู้ตัวตนของเราใหม่
2. วิเคราะห์ว่าคนเข้าเว็บของเราเป็นใคร
หากรู้จัก GA4 ที่เป็นเครื่องมือดูค่าสถิติของเว็บไซต์ สามารถเข้าไปดูหมวดเมนูหลักด้านซ้ายที่ชื่อว่า “Reports” เข้าไปแล้วมองหาหมวด “User” เลือก “User attributes” ในหน้านี้จะมีข้อมูลหลายอย่างที่บอกว่าผู้ที่เข้าเว็บไซต์เราเป็นใคร มีความสนใจด้านไหน เพศอะไร และอายุเท่าไหร่ เป็นต้น สิ่งที่เราต้องทำคือ เก็บข้อมูลเหล่านี้ออกมา แล้วนำไปใช้พัฒนาแนวทางการทำ Content เป็นต้น
ข้อดีของการเวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย : ช่วยให้เรารู้ว่าใครคือเป้าหมายที่สนใจแบรนด์ของเรา ยิ่งทำตรงใจ ยิ่งมีคนเข้าเว็บตามมาเยอะ
ข้อเสียของการเวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย : อาจต้องทำ A/B Testing เพราะถึงแม้จะมีข้อมูลในมือ แต่ข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนไม่ได้ถูกต้องเสมอไป
3. สร้าง Content ที่น่าสนใจ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
การทำ Content ลงเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่า “เขียนบทความ” ควรเป็นหัวข้อเนื้อหาที่น่าสนใจ ตรงกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และควรเขียนในเชิงเทคนิคแบบ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสให้ติดหน้า Google ด้วย หลายคนอาจเรียก Content แบบนี้ว่า “Content คุณภาพ”
ข้อดีของการทำ Content คุณภาพ : สร้างผลลัพธ์ได้ระยะยาว ทำให้ผู้ใช้งานเว็บหันมาสนใจมากขึ้น
ข้อเสียของการทำ Content คุณภาพ : ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ ต้องมีความรู้ในสิ่งที่เขียนมาก ทำให้ต้องเสียเวลาในการหาข้อมูล และจำเป็นต้องรู้เทคนิคการเขียนบทความ SEO
4. เพิ่มคนเข้าเว็บด้วยการทำ Backlink
หลายคนอาจไม่เข้าใจว่าการทำ Backlink คืออะไร แต่ถ้าเราบอกว่า คือ “การให้เว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงเขียนบทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเว็บไซต์เรา” อาจจะเข้าใจง่ายกว่า ในเมื่อเว็บไซต์เราคนยังเข้าน้อย ยังไม่เป็นที่รู้จัก การเอาเว็บของเรา แบรนด์ของเราไปฝากเอาไว้กับเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วจะทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น อาจเข้ามาหาเราเองได้โดยตรง ซึ่งวิธีของแต่ละเว็บจะต่างกัน ส่วนมากจะให้เราส่งต้นแบบเนื้อหาบทความไป แล้วจะมีการปรับให้เหมาะสมก่อนนำไปลงเว็บต่อไป
ข้อดีของการทำ Backlink : ทำไม่ยากเพียงเตรียมข้อมูลที่ต้องการ ได้ผลเร็วกว่าหากเทียบว่าเราลงบทความเนื้อหาแบบเดียวกัน
ข้อเสียของการทำ Backlink : มีราคาที่แพงหากไปจ้างเจ้าใหญ่ทำ และไม่สามารถรับรองตัวเลขได้แน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
5. สร้างตัวตนใน Social Media
จำนวนคนเข้าเว็บไซต์ หรือ Traffic ที่จะเข้ามานั้น ไม่สามารถเร่งให้เกิดขึ้นได้ทันใจ การไปสร้างตัวตนตามพื้นที่ต่าง ๆ สามารถสร้างการรับรู้ได้มากขึ้นแน่นอน อย่างน้อยควรมีช่องทาง Social Media อย่างน้อย 2 ช่องทาง และสามารถนำบทความไปโพสต์ลง Feed ข่าวสาร เพื่อให้คนกดเข้ามาอ่านต่อที่เว็บไซต์ได้
ข้อดีของการทำ Social Media : สร้างภาพจำให้กับอบรนด์ได้มาก เพิ่มโอกาสการค้นหาแบรนด์ใน Google มียอด Traffic เพิ่มเข้ามา
ข้อเสียของการทำ Social Media : ยิ่งมีหลายช่องทาง ยิ่งต้องใช้เวลาในการทำมากขึ้น สูญเสียพลังงานในการทำมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันการทำสื่อเหล่านี้การแข่งขันสูง จึงต้องมีการใช้เงินกระตุ้นด้วย
6. ทำ ADS ให้คนเข้าเว็บ
การทำโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้วตั้ง Landing Page มาที่เว็บไซต์ ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมนำมาใช้กระตุ้น Traffic กัน เพียงแต่วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ต้องใช้ทุน 100% และไม่สามารถมองเป็นวิธีหลักได้ เนื่องจากเมื่องบของเราหมด จำนวนคนที่เข้าเว็บก็จะหยุดไปด้วย และราคาต่อ 1 Traffic ที่ได้อาจสูง หรือต่ำไม่เท่ากัน
ข้อดีของการทำ ADS : ช่วยเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บได้เลยทันที ไม่ต้องรอเวลา
ข้อเสียของการทำ ADS : จำเป็นต้องมีทุนในการทำ และไม่สามารถหวังผลได้ตลอดไป รวมถึงควรมีความเชี่ยวชาญระดับหนึ่ง เพื่อไม่ให้โฆษณามีประสิทธิภาพต่ำ
7. ให้ Influencer ช่วย
ยุคนี้เป็นยุคของ Influencer คงไม่สามารถมองข้ามได้ วิธีนี้เป็นการหาผู้ที่มีชื่อเสียงในแต่ละด้านให้แนะนำตัวสินค้าของเรา เพื่อให้มีคนสนใจ และรู้จักสินค้าของเรามากขึ้น สามารถเพิ่มยอด Traffic ได้โดยตรง ซึ่งการใช้ Influencer จะมีอยู่หลายระดับ โดยจะใช้เกณฑ์การวัดจากยอดผู้ติดตาม ดังนี้
Nano Influencer (ผู้ติดตาม 1,000-10,000 คน)
Micro Influencer (ผู้ติดตาม 10,000-50,000 คน)
Mid-Tier Influencer (ผู้ติดตาม 50,000-100,000 คน)
Macro Influencer (ผู้ติดตาม 100,000-1,000,000 คน)
Mega Influencer (ผู้ติดตาม มากกว่า 1,000,000 คนขึ้นไป)
แม้ว่าคุณจะมีทุนไม่มากพอที่จะจ้าง Mega Influencer แต่ยังสามารถใช้วิธีกระจายงบที่มีด้วยการจ้าง Mid-Tier Influencer หลายคนในเวลาเดียวกัน ก็ถือเป็นเทคนิคที่ดีเช่นกัน
ข้อดีของการหา Influencer : ช่วยกระตุ้นให้คนรู้จัก มีคนเข้ามาในเว็บไซต์แทบจะทันที และตรงต่อกลุ่มเป้าหมายด้วย
ข้อเสียของการหา Influencer : เป็นวิธีที่ต้องใช้ทุน 100% และมีราคาที่สูงตามปริมาณผู้ติดตามของแต่ละราย
8. สร้าง Community ให้กับผู้ใช้งาน
เว็บบอร์ด และกลุ่ม Facebook ถือเป็นศูนย์รวมของสังคมหนึ่งไม่ว่าจะสายไหน ก็ต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่ตลอด เพื่อรวบรวมให้คนเข้าเว็บมาเยอะ ๆ ถึงแม้จะมาใช้งานการตั้งกระทู้ แต่เรายังสามารถแอบขายของตาม Banner ต่าง ๆ ได้อยู่ หากเราบริหารจัดการพื้นที่ของ Community ได้ดี สังคมที่ใหญ่ขึ้นจะกระตุ้นให้คนเข้าเว็บของเรามากขึ้นด้วย
ข้อดีของการทำ Community : เราสามารถเก็บข้อมูล ความต้องการ และความสนใจของเหล่าผู้ใช้งานที่คาดว่าจะทำให้เรามียอดการขายเพิ่มได้ด้วย และถ้าหากทำในระยะยาว จะมีคนเข้าเว็บเพิ่มมากขึ้นสูง
ข้อเสียของการทำ Community : ทำได้ยากในช่วงแรก และต้องการจำนวนคนมาก ๆ เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวมากพอในแต่ละวัน
9. อย่าลืมทำ E-Newsletter
เมื่อมีการเก็บข้อมูลเบื้องต้นในหลาย ๆ ด้านทั่วไปแล้วจะมีการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานกลับมาใช้งานเว็บไซต์ด้วย เพื่อไม่ให้ Traffic ของเว็บหดหายจนเกินไป การส่งอีเมลไม่จำเป็นต้องเป็นอีเมลที่กระตุ้นการขายเท่านั้น แต่ยังเป็นอีเมลที่ให้ความรู้ได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้ยอดขาย แต่การทำให้ผู้ใช้งานไม่ลืมเรา และกลับมาด้วยเหตุผลข้อใดข้อหนึ่ง นอกจากจะได้ Traffic แล้ว สุดท้ายโอกาสในการขายสินค้าก็ยังคงอยู่ด้วยเช่นกัน
ข้อดีของการทำ E-Newsletter : เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ที่ดี และผู้ที่ได้รับสาร ถือว่าค่อนข้างตรงกลุ่มเป้าหมาย
ข้อเสียของการทำ E-Newsletter : ใช้เวลาในการทำนาน ถ้าเทียบกับข้ออื่น ๆ วิธีนี้ถือว่ากระตุ้นยอด Traffic ได้น้อยกว่า
10. ใช้ Notification ไม่ให้ผู้ใช้งานลืม
หากแบรนด์ของคุณมี App มือถือด้วย การใช้งานระบบ Notification เพื่อส่งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับ App จะสร้างภาพจำ และกระตุ้นให้ผู้ใช้งานกลับมาที่ App ได้บ้าง เมื่อผู้ใช้งานเริ่มรู้สึกว่าคุ้นเคยกับแบรนด์ ก็สามารถเพิ่มโอกาสให้เข้าเว็บไซต์มี Traffic เพิ่มขึ้นได้ในอนาคตเช่นกัน
ข้อดีของการทำ Notification : ทำได้ไม่ยาก เพียงเลือกเรื่องที่ต้องการจะส่งแจ้งเตือนออกไป
ข้อเสียของการทำ Notification : เช่นเดียวกับการทำ E-Newsletter ถ้าเทียบกับข้ออื่น ๆ ถือว่าเป็นการกระตุ้น Traffic ได้น้อยกว่า
11. ศึกษาเว็บไซต์คู่แข่งที่ประสบความสำเร็จ
การหาต้นแบบในการทำเว็บไซต์ให้น่าสนใจ มีคนเข้าใช้งานมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการศึกษาคู่แข่ง ว่าเขาทำแบบไหนถึงดี นอกจากนี้เรายังอาจพบสิ่งที่ไม่ดี ที่เราไม่ควรทำตามด้วย ยิ่งศึกษามากเท่าไหร่ เรายิ่งรู้ว่ามีอะไรบ้างที่เรายังขาดไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการ ถ้าเราพัฒนาเว็บต่อไป จะมีโอกาสเพิ่มให้มีคนเข้าเว็บไซต์มี Traffic ที่สูงขึ้นได้
ข้อดีของการศึกษาเว็บคู่แข่ง : เพิ่มไอเดียใหม่ ๆ ช่วยให้มีคนหันมาสนใจเว็บไซต์เราได้
ข้อเสียของการศึกษาเว็บคู่แข่ง : ใช้เวลาศึกษานาน และหลายระบบที่เราต้องการทำตามอาจมีค่าใช้จ่ายสูง
12. พยายามตรวจสอบความสมบูรณ์ของเว็บไซต์
เทคนิคสุดท้ายที่เราอยากจะแชร์ คือ เมื่อเราพัฒนาเว็บไซต์ออกมาดีแล้ว มียอด Traffic เข้าเว็บไซต์แล้ว ต่อมาที่ต้องระวัง คือ สถานะของเว็บไซต์ ที่ควรจะออนไลน์อยู่ตลอดเวลา ต้องดูไม่ให้เว็บไซต์ล่ม หรือเกิดการ Error ขึ้น เพราะในช่วงที่เว็บมีปัญหาจะทำให้สูญเสียยอด Traffic ทั้งหมดไป และหากปล่อยเอาไว้นาน จะทำให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้ ส่งผลกระต่อ SEO ในท้ายที่สุด
การพัฒนาเว็บให้มีประสิทธิภาพ และตรงต่อความต้องการของผู้ใช้งานสำคัญมาก หากสามารถตอบโจทย์ได้ ยอด Traffic จะค่อย ๆ ขยับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เอง ดังนั้นจะดีกว่าหากวางใจให้ Launch Platform ช่วยดูแลการพัฒนาเว็บไซต์แบบครบวงจร เพื่อให้ได้เว็บไซต์ตามที่คุณต้องการ
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจในหัวข้อนี้:
